Loading

ทำนองลำวัฒนธรรมล้านช้าง

วาดลำชวนม่วนซื่นรื่นลายแคน โขงกั้นแดนมิกั้นใจลาวไทยหนอ
“วัฒนธรรมล้านช้าง”ใช่ต่างกอ “โอ้ละนอ” ฟังแล้วซึ้งถึงดวงมาน
ม. อุบลยลเห็นค่าพาตระหนัก อนุรักษ์หมอลำไว้ให้ลูกหลาน
ฉลองสองทศวรรษพิพัฒน์วาร สร้างตำนานสานศิลป์อยู่คู่แผ่นดิน

ประพันธ์โดย อาจารย์ ดร.ชาญชัย คงเพียรธรรม
สาขาวิชาภาษาตะวันออก คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

การรวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมด้านการดนตรีในวัฒนธรรมล้านช้างที่มีอยู่หลากหลายท่วงทำนอง มีเอกลักษณ์แตกต่างกันตามแต่ละท้องถิ่น แบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม

1.ลำล่อง
ลำล่องหรือลำทางยาว เป็นทำนองหลักที่หมอลำทั้งกลุ่มหมอลำกลอนและหมอลำเรื่อง มีทำนองช้า เน้นการเอื้อนเสียงให้เกิดความไพเราะ ใช้ในการพรรณนาสภาพธรรมชาติ เช่น ทุ่งนา ป่าเขา รวมถึง ความรัก ความพลัดพราก หรือเล่าเรื่องราวนิทานต่าง ๆ ลำล่องอาจแบ่งได้เป็น 3 ช่วง คือ ช่วงเกริ่นลำ ช่วงบรรยายความ และช่วงจบหรือลง แต่ละท้องถิ่นก็จะมีวาด (Style) ที่แตกต่างกันตามสำเนียงพูด เช่น ลำล่องวาดอุบล มักจะเกริ่นลำด้วยคำว่า “ฟ้าเอย … ” เป็นต้น

2.ลำทางสั้น

ลำทางสั้นเป็นการลำที่มีทำนองและจังหวะเร็วกระชับ ไม่เน้นการเอื้อนเสียง ลำทางนั้นอาจแบ่งได้เป็น 3 ช่วง คือ ช่วงเกริ่นลำ มักจะขึ้นต้นว่า “โอละหนอ” แล้วต่อด้วยกลอนลำสั้น ๆ ช่วงบรรยายความ มักขึ้นต้นด้วย “โอละนอ … นวลเอย” ช่วงจบหรือลง มักจะลงด้วยคำว่า “สีนานวล …. ” ลำทางสั้นใช้สำหรับบรรยายเนื้อความที่ต้องการความรวดเร็วสนุกสนาน เช่น ตอนเดินดงของหมอลำหมู่ หรือการเล่านิทานของหมอลำกลอนรวมถึงนิยมใช้ ในการแสดงหมอลำชิงชู้ ซึ่งเป็นการแสดงหมอลำรูปแบบหนึ่งที่พัฒนาขึ้นมาหมอลำกลอน ในช่วงราวปี 2500 มีการสมมติบทบาทให้เป็นฝ่ายชาย 2 คน ฝ่ายหญิง 1 คน ฝ่ายชายมักจะแสดงเป็นพ่อค้า กับชาวนา ที่มารักหญิงสาวคนเดียวกัน ต่างฝ่ายก็ต่างพยายามหาเอาข้อบกพร่องมาบอกให้ฝ่ายหญิงทราบ การแย่งชิงผู้หญิงคนเดียวกันนี้เป็นทีมาของคำว่า “หมอลำชิงชู้” นั่นเอง

3.ลำเรื่อง

ลำเรื่องหรือลำหมู่ เป็นการลำที่มีพัฒนาการมาจากลำพื้น ซึ่งเป็นการลำเล่าเรื่องราวนิทาน ตำนาน โดยหมอลำคนเดียวสวมบทบาทเป็นตัวละครหลายตัว (Solo Performance) ต่อมาจึงมีการแบ่งแยกบทบาทเป็นตัวละครตามท้องเรื่อง มีพระเอก นางเอก ผู้ร้าย ตัวตลก เนื่องจากได้รับอิทธิพลด้านรูปแบบการแสดงมาจากลิเกส่วนหนึ่ง หมอลำหมู่ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน คือ หมอลำหมู่วาดขอนแก่น

4.ลำเพลิน

ลำเพลิน เป็นการแสดงที่พัฒนาขึ้นมาจากการลำแบบดั้งเดิม คือลำกลอนและลำเรื่องผสมผสานเข้ากับอิทธิพลจากภายนอกหลายแขนง คือ วงดนตรีลูกทุ่ง วงดนตรีสตริงรำวง ลิเก จนเกิดเป็นการลำรูปแบบใหม่ ที่เน้นจังหวะคึกคักเร้าใจ สนุกสนานเพลิดเพลิน มีการเต้นหางเครื่องใส่กระโปรงสั้น จนกลายเป็นชื่อเรียกว่า “หมอลำกกขาขาว” อีกชื่อหนึ่ง เรื่องที่นิยมนำมาเล่นนั้น มักดัดแปลงมาจากวรรณกรรมไทยภาคกลาง เช่น ขุนช้าง ขุนแผน แก้วหน้าม้า ไกรทอง เป็นต้น หมอลำเพลินที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่เป็นคณะที่อยู่ในแถบจังหวัดอุบลราชธานีและยโสธร

5.ลำซิ่ง ลูกทุ่งหมอลำ

ลำซิ่งเกิดขึ้นราวปี พ.ศ.2529 จากการปรับตัวของหมอลำกลอน ให้สามารถอยู่รอดได้
ในภาวะที่หมอลำกลอนแบบเดิมเสื่อมความนิยม เนื่องจากมีมหรสพใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ เช่น เพลงสตริง เพลงร๊อค เธค ภาพยนตร์ โดยนำเอากลองชุด และเครื่องดนตรีไฟฟ้ามาประกอบ เน้นการลำทางสั้นจังหวะเร็ว หรือลำหญ่าว สลับกับการร้องเพลงที่นิยมใน ขณะนั้น เป็นที่ถูกใจของผู้ฟังวัยรุ่น ที่นิยมความเร็วหรือรถซิ่ง จึงเป็นที่มาของหมอลำ กลอนที่ประยุกต์ปรับตัวชนิดนี้ว่า ลำซิ่ง หรือลำกลอนประยุกต์ นั่นเอง ในช่วงเวลาเดียวกันก็เกิดเพลงลูกทุ่งที่ผสมผสานกับหมอลำ กลายเป็นเพลงลูกทุ่งหมอลำ โด่งดังขึ้น เช่น เพลงสาวจันทร์กั้งโกบ ของพรศักดิ์ ส่องแสง เป็นต้น

6.ขับลำประจำถิ่นดินแดนลาว
ขับทุ้มหลวงพระบาง เป็นที่นิยมกันในแขวงหลวงพระบางรวมถึงในราชสำนักด้วย
เอกลักษณ์ของขับทุ้มคือมีคำสร้อยที่ลูกคู่จะร้องรับ เช่นคำว่า “เยิกเข้าไป” “ตาตีโยนเป็ง” ขับงึม เป็นการขับลำในแถบเวียงจันทน์ โดยเรียกตามชื่อลำน้ำงึมที่ไหลผ่าน เป็นการลำที่มีลักษณะเนิบช้า เน้นการพรรณนาความ ลำคอนสะหวัน เป็นการขับลำเอกลักษณ์ของแขวงสะหวันนะเขต มีจังหวะสนุกสนาน ลำผู้ไท เป็นการขับลำของชาวผู้ไท ที่อาศัยในแขวงสะหวันเขต ลำตั่งหวาย แต่เดิมเป็นการขับลำของบ้านตั่งหวาย ซึ่งเป็นชนเผ่าลาวเทิงที่พูดภาษาตระกูลมอญ-เขมร ในลาวตอนใต้ ต่อมามีการนำทำนองมาขับเป็นภาษาลาว มีเอกลักษณ์คือมักจะร้องสร้อยรับว่า “เยือก ๆ” หรือ “ยวบ ๆ” เสมอ ลำโสม เรียกชื่อตามลำน้ำโสมในเขตลาวตอนใต้ มีจังหวะเนิบช้า ลำสีพันดอน เป็นการลำเอกลักษณ์ของลาวใต้ในแขวงสะหวันนะเขตและจำปาสัก สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากลักษณะของแม่น้ำโขงในช่วงนี้ที่มีเกาะแก่งมากมาย เรียกว่า สี่พันดอน นั่นเอง ลำสาละวัน เป็นการลำเอกลักษณ์ของแขวงสาละวัน ต่อมาพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา นำทำนองลำสาละวันมาแต่งเป็นเพลงลูกทุ่งชื่อ สาละวันรำวง ให้ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ร้อง โดยแต่งท่อนร้องใหม่คือ “สาละวันเตี้ยลง” “สาละวันเดินหน้า” “สาละวันถอยหลัง” “สาละวันลุกขึ้น” ทำให้ต่อมาลำสาละวันมักจะมีท่อนร้องดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน

7.ขับลำประจำถินดินแดนอีสาน

นอกเหนือจากการลำกลอน และลำเรื่องซึ่งมีความเฟื่องฟูอย่างมากในภาคอีสานแล้ว ในท้องถิ่นต่าง ๆ ยังมีการขับลำแบบปฏิพากย์ โต้ตอบกันระหว่างหนุ่มสาวในงานประเพณีต่าง ๆ เช่น ประเพณีลงข่วงเข็นฝ้าย ประเพณีสงกรานต์ หรืองานบุญต่าง ๆ โดยเฉพาะในเขตที่อยู่ใกล้ชิดกับประเทศลาว มีการแลกเปลี่ยน ไปมาหาสู่กัน ในฐานะญาติพี่น้อง เช่น อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร และอำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ ที่ใกล้กับแขวงสะหวันนะเขตเพียงแม่น้ำโขงกั้น จึงทำให้ภาษาและการขับลำในสองอำเภอนั้น มีทำนองคล้ายกันกับในแขวงสะหวันนะเขต อย่างไรก็ตามในบางถิ่นก็มีเอกลักษณ์การขับลำเฉพาะตามสำเนียงการพูด เช่น ลำผู้ไท ในหลายอำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีทำนองแตกต่างจากลำผู้ไท สะหวันนะเขต คำเจ่ยฟ้อนกลองตุ้มหรือกาบเซิ้งบั้งไฟ ของชาวบ้านหนองบ่อ ที่มีสำเนียงแตกต่างจากสำเนียงหลักของเมืองอุบลราชธานี เป็นต้น

8.ลำเบ็ดเตล็ด

การขับลำในดินแดนอีสาน มีรูปแบบและทำนองที่หลากหลาย อันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของศิลปิน ทำนองลำบางอย่างได้รับความนิยมชั่วครู่แล้วหายไป บางอย่างได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับบริบทเวลาใหม่ใน ลำเบ็ดเตล็ดที่นำเสนอในอัลบั้มนี้ ได้แก่ ลำเต้ย ลำเวียง ลำเดินขอนแก่น ลำสินไซ

ลายดนตรี

เมื่อมีเสียงลำ ย่อมมีเสียงแคน เป็นของคู่กัน ดนตรีในวัฒนธรรมล้านช้างมีลักษณะเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่มีความสนุกสนานเร้าใจ รวมถึงมีความขลังศักดิ์สิทธิ์เมื่อใช้ในพิธีกรรม ในอัลบั้มนี้ได้นำตัวอย่างลายดนตรี ที่พ่อเปลื้อง ฉายรัศมี ศิลปินแห่งชาติ ได้บันทึกเสียงเอาไว้ก่อนที่ท่านจะถึงแก่กรรม มาเผยแพร่เพื่ออนุรักษ์ไว้ซึ่งมรดกสำคัญที่ท่านมอบให้กับแผ่นดิน นอกจากนี้ยังรวบรวมลายแคนที่ใช้ในการขับลำท้องถิ่นลาวลายปี่ผู้ไท และลายฟ้อนกลองตุ้มที่หาฟังได้ยาก

บรรณานุกรม

คำล่า มุสิกา, หัวหน้าโครงการ. (2553). รายงานโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทำนองลำวัฒนธรรมล้านช้าง. อุบลราชธานี: คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.