• มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

    1. ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20 ล้านคน หรือเท่ากับหนึ่งในสามของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งมีอาชีพหลักคือการเกษตร ฉะนั้น รัฐบาลทุกยุคที่ผ่านมา จึงทุ่มเทงบประมาณจำนวนมหาศาลให้แก่การพัฒนาการเกษตร แต่ประชากรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ยังยากจน และมีรายได้ต่ำสุดเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรทั้งประเทศ ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องด้วยปริมาณและมูลค่าของผลผลิตที่ได้ จากการอพยพของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าไปหางานทำในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร จึงเห็นอยู่ตลอดเวลา และจะพบมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูแล้ง จึงอาจกล่าวได้ว่า ความพยายามของรัฐบาลที่มีต่อการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามรัฐบาลมีความเชื่อว่าการให้การศึกษาในระดับอุดมศึกษาเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้ ในขณะนั้นสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอยู่เพียง 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขต มหาสารคาม ซึ่งสอนเน้นหนักด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ในขณะที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีการเรียนการสอนที่เน้นหนักในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หากมองในแง่ของการสนองตอบต่อความต้องการพัฒนากำลังคนของประเทศ ซึ่งกำลังมุ่งพัฒนาประเทศไปสู่การเป็นประเทศกึ่งอุตสาหกรรมแล้ว ก็นับได้ว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพียงแห่งเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผลิตบุคลากรตรงกับความต้องการของประเทศ ประกอบกับจากข้อมูลการรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ผ่านมา ปรากฎว่านักเรียนที่สำเร็จการศึกษาตอนปลายจากส่วนตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีโอกาสเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นเพียงร้อยละ 14-15 ของจำนวนนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นรับเข้าศึกษาในแต่ละปี ดังนั้น หากมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้ประชากรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากครอบครัวสามารถรับภาระส่งบุตรหลานของตนเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ซึ่งอยู่ห่างไกลจากจังหวัดของตน นอกจากนี้มหาวิทยาลัยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ยังเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ที่ได้รับไปปรับปรุงการประกอบอาชีพของตนให้ผลิตเพิ่มขึ้น และมูลค่าของผลผลิตที่สูงขึ้นด้วย อันเป็นผลให้ประชากรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น สำหรับที่ตั้งของมหาวิทยาลัยรัฐบาลได้เล็งเห็นว่า ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี  มีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งในด้านความเจริญของตัวจังหวัดและความสะดวกในการคมนาคม   ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2528 ทบวงมหาวิทยาลัย จึงได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาจัดตั้งวิทยาลัยอุบลราชธานี สังกัดมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพราะความสามารถกระทำได้ทันทีโดยใช้ งบประมาณแผ่นดิน เพียงเล็กน้อยในการผลิตบัณฑิต สนองความต้องการกำลังคนของประเทศได้ในสาขาที่ขาดแคลน ได้แก่ แพทย์ เกษตรกร พยาบาล และวิศวกร วิทยาลัยฯ ได้เปิดรับนักศึกษารุ่นแรกเข้าศึกษา ในปีการศึกษา 2531 จำนวน 67 คน ในสาขาวิชาเกษตรศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ โดยฝากเรียนไว้ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขณะที่ดำเนินการ ในรูปของวิทยาลัยฯ ก็ได้เริ่มก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค อาคารเรียน และอาคารฝึกต่าง ๆ ในพื้นที่ที่ได้พิจารณาเลือกให้เป็นที่ตั้งวิทยาลัยอุบลราชธานี กิโลเมตรที่ 10-11 ถนนสถลมาร์ค ตำบลเมืองศรีไค อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เนื้อที่ประมาณ 5,228 ไร่ ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2531 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการที่ทบวงมหาวิทยาลัย เสนอให้ยกฐานะวิทยาลัยอุบลราชธานีเป็นมหาวิทยาลัย โดยที่รัฐบาลได้กำหนดให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเน้นความรับผิดชอบการจัดการศึกษาสำหรับประชากร 7 จังหวัด ในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่…

  • บทสัมภาษณ์ อาจารย์อริยาภรณ์ พงษ์รัตน์ อาจารย์คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

    วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2536 ใช้เป็นข้อมูลประกอบการทำวิจัยเรื่อง สภาพปัญหาของนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปีการศึกษา 2535 “… อยากให้นักศึกษามีความกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบ เพราะเขาเองต้องคำนึงถึงโลกภายนอก ที่เขาจะต้องไปประสบ เมื่อเขาจบออกไปแล้ว”

  • ภาพเก่า ย้อนรอย ม.อุบลฯ