
บทสัมภาษณ์ รศ.ดร.พิมล กลกิจ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น
“ประวัติการสร้างสานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี”
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2537

ท่านเข้ามามีส่วนร่วม หรือมีบทบาทหน้าที่อย่างไรบ้าง ในการดำเนินงานจัดตั้งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
การเสนอให้จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษา ขึ้นในภาคอีสาน รวมทั้งขยายตัวออกเป็นการจัดตั้งมหาวิทยาลัยออกเป็น 3 แห่ง เช่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีความเป็นมาดังนี้
พ.ศ. 2484 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ซึ่งมีรัฐบาลจอมพลแปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการดำริเรื่องการจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. 2500 – 2505 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสำรวจสถานที่ที่เหมาะสมในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น เท่าที่จำได้ประกอบด้วยข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสภาการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งมีหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ณ อยุธยา อาจารย์อภัย จันทวิมล ดร.กำแหง พลางกูร คุณบุญชนะ อัตถากร คุณเกยูร ลิมทอง และคุณเกสิงห์ สุวะตะพันธ์ เป็นต้น คณะกรรมการชุดนี้ ได้สำรวจสถานที่ และได้พิจารณาพื้นที่จัดตั้งมหาวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดอุบลราชธานีเป็นอันดับแรก อันนี้สำคัญมาก เพราะว่าจังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดใหญ่ แต่ว่ามีจุดที่ตั้งอยู่ไปทางภาคตะวันออกของอีสาน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2505 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้สั่งให้ตั้งมหาวิทยาลัยที่จังหวัดขอนแก่น โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้มหาวิทยาลัยที่จะตั้งขึ้น ควรจะมีที่ตั้งในจังหวัดใกล้ศูนย์กลางในเขตภาคอีสาน จึงตกลงตั้งที่จังหวัดขอนแก่น ดังนั้นพื้นที่ที่จังหวัดอุบลราชธานีก็เป็นอันดับรองลงมา เพราะเลือกจังหวัดขอนแก่นแล้ว

ในส่วนของคณะกรรมการที่เราได้พิจารณาเลือกจังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากเราเห็นว่าเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ มีน้ำและไฟฟ้าสะดวกกว่าจังหวัดขอนแก่นมาก เราเห็นแล้วเราก็ชอบ มีแก่งสะพือ มีแม่น้ำมูลมี การสำรวจพื้นที่จัดตั้งมหาวิทยาลัย เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้ามาสำรวจพื้นที่แล้ว ได้เสนอให้จัดตั้ง มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นมหาวิทยาลัยแห่งที่ 2 ต่อจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้
1.จากการเสนอของคณะกรรมการที่ผ่านมาซึ่งเคยเสนอไว้ว่าจังหวัดอุบลราชธานีเป็นพื้นที่ ที่เหมาะสม ประกอบกับข้าราชการ และประชาชน เสนอแนะให้จัดตั้งที่จังหวัดอุบลราชธานี ประชาชน ในที่นี้คือประชาชนที่เรารู้จัก ที่เป็รตัวแทนมาจากประชาชนและเป็นกรรมการส่งเสริมมหาวิทยาลัยขอนแก่น 2 ท่าน คือ คุณไสล วรรณพินิจ และคุณอากาศ ไสยสมบัติ อดีตเทศมนตรีอำเภอวารินชำราบ ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว ซึ่งขณะนั้นมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีคณะกรรมการส่งเสริมกิจการของมหาวิทยาลัยมาจากทุกจังหวัดของภาคอีสาน อันนี้สำคัญมาก ซึ่งต่อปอยากเสนอแนะให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ตั้งคณะกรรมการส่งเสริมกิจการของมหาวิทยาลัยที่อยู่ในเขตอีสานตะวันออก คณะกรรมการของเราก็เอ่ยถึงจังหวัดอุบลราชธานี ว่าเป็นจังหวัดที่เคยดำริที่จะจัดตั้งมาแล้ว จึงควรจะไปจัดตั้งที่จังหวัดนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีขณะนั้นคือ พลตำรวจตรีวิเชียร ศรีมันตร (ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2513-2516) ก็ตื่นตัว แต่ที่จริงทุกคนตื่นตัวดี เพราะเป็น credit ของเขาที่จะตั้งมหาวิทยาลัย ขึ้นในจังหวัด ช่วงนั้นเป็นปี พ.ศ. 2515-2516 ผู้ว่าราชการจังหวัดได้พาเราไปดูพื้นที่ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6,000 ไร่ ที่อำเภอวารินชำราบ ซึ่งเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีในปัจจุบันนี้ เป็นพื้นที่ที่กว้างขวางมาก มีการสำรวจพื้นที่ทั้งทางพื้นดิน และทางอากาศโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ ขณะนั้น ที่สาธารณะแห่งนี้มีน้ำเจิ่งนอง และชาวบ้านเข้าไปใช้พื้นที่ เพราะเห็นว่าเป็นที่ว่าง เขาก็เลยเข้าไปทำนากัน เขาก็บอกว่าถ้ามาตั้งมหาวิทยาลัย เขายินดีที่จะถอนตัวออกเลย
คณะสำรวจพื้นที่ก็ได้ดูพื้นที่ที่อำเภอวารินชำราบ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพาไปดู และดูเหมือนจะมีนายแพทย์นพดล ทองโสภิตด้วย และน่าจะไปสัมภาษณ์ท่าน เพราะท่านป็นประธานกรรมการ กับเรื่องนี้ด้วย โดยเฉพาะความก้าวหน้าการก่อตั้งมหาวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เอาไปถ่ายเอกสารไว้ได้ มีประธานกรรมการและคณะกรรมการอีกมากในเอกสารนี้มีบอกเอาไว้หมดเลย มีเหตุผลอะไรต่าง ๆ และมีข้อมูลอื่น ๆ ที่จะช่วยได้มาก และได้เติมจังหวัดอำนาจเจริญเพิ่งลงไปด้วยแล้ว มีแผนที่อะไรด้วย (ให้เอกสารแก่งานวิจัยสถาบันมาถ่ายเอกสารไว้แล้ว-งานวิจัยสถาบัน) ผมเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณาจัดตั้งมหาวิทยาลัยแห่งที่ 2 ขึ้น ในภาคอีสานนี้ ขณะนั้นผมอยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และพื้นที่ที่จะจัดตั้งมหาวิทยาลัยแห่ง 2 ที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่เราสำรวจดูนี้น่าจะเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัย คือ เราคิดว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ จะไม่ประสบปัญหาอย่างที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นประสบอยู่ เนื่องจากขณะนั้นมหาวิทยาลัยขอนแก่น เราประสบปัญหาเรื่องน้ำมาก เพราะอยู่บนเนินเขา ทำเอาเดือดร้อนและเด็กนักศึกษาเดินขบวนเลย เพราะน้ำไม่มี ซึ่งเราก็ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเราใช้ปั๊มน้ำมาจากน้ำพองขึ้นมาไว้ใช้อยู่ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากทหารใน สมัยจอมพลประภาส จารุเสถียร ได้อนุญาตให้ใช้สถานที่ทหารที่ขอนแก่นทำบ่อเก็บกักน้ำ ซึ่งท่านได้ช่วยเหลือเพื่อการศึกษา
- ความร่วมมือสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น โดยที่จังหวัดอุบลราชธานีมีวิทยาลัยครู ที่เราขอความร่วมมือด้านครูอาจารย์มาสอนรายวิชา Basic Scenrce นอกจากนั้นมีโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ดีและใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ขณะนั้นมี 600 เตียง และบังเอิญนายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นศิษย์เก่าของเรา คือ นายแพทย์พิสุทธิ์ อุตโมท ซึ่งท่านยินดีและสนับสนุนที่จะให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งในการก่อสร้างมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะคณะแพทยศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์ ที่จะได้ให้โรงพยาบาลเป็นที่ฝึกงานของนักศึกษาแพทย์และพยาบาล ซึ่งขณะนั้นทางโรงพยาบาลมีโครงการอบรมผู้ช่วยพยาบาลอยู่ตลอดเวลา ในการขยายงานต่อไป ก็จะจึงมีการจัดตั้งคณะเภสัชศาตร์ ซึ่งเภสัชกรกำลังป็นที่ต้องการทั่วทั้งประเทศไม่ใช่แต่ที่อีสานเท่านั้น ส่วนทันตแพทย์และสัตวแพทย์ก็จำเป็นทั้งนั้น
- ด้วยประสบการณ์ของข้าพเจ้าทั้งที่บริหารงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และประสบการณ์ เมื่อ พ.ศ. 2496 ขณะที่เป็นผู้อำนวยการการแสดงวิทยาศาสตร์เคลื่อนที่ (Director of Traveling Science Exhibition) ขององค์การยูเนสโก (UNESCO) ตอนไปจัดแสดงในประเทศกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐเวียดนาม ซึ่งได้เห็นความต้องการทางการศึกษาระดับอุดมศึกษา ของประเทศเหล่านั้นยังขาดอยู่ คิดว่าหากจัดตั้งมหาวิทยาลัยที่จังหวัดอุบลราชธานีขึ้นแล้ว ก็น่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่จะให้บริการหรือรับทั้งนักเรียนจากประเทศกัมพูชาและลาวเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยได้เช่นเดียวกับที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นดำเนินการ
2531 ท่านคิดว่าการจัดตั้งมหาวิทยาลัยใหม่ในประเทศไทยนั้น มีปัจจัยและเงื่อนไข สำคัญอะไรบ้าง ที่จะทำให้การจัดตั้งมหาวิทยาลัย ประสบความสำเร็จลุล่วงด้วยดี และมีปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้การจัดตั้งมหาวิทยาลัยเป็นไปได้ลำบาก
การจัดตั้งมหาวิทยาลัยใหม่ให้ประสบความสำเร็จได้นั้นที่แน่นอน คือ ต้องมีความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เช่น ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากประเทศแคนาดา และประเทศนิวซีแลนด์มาช่วยทั้งทางตรง คือ ติดต่อกับมหาวิทยาลัยโดยตรง และทางอ้อมเป็นการช่วยเหลือผ่านรัฐบาล เช่น กรมวิเทศสหการ และทางสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการช่วยเหลือจากประเทศอื่นๆ เป็นต้น ศิษย์เก่ารุ่นแรกของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับประโยชน์จากความช่วยเหลือจากต่างประเทศมาก รวมทั้งคณาจารย์ที่ได้ไปศึกษาต่างประเทศสำเร็จมาแล้ว ก็จะมาปฏิบัติหน้าที่แทนคณาจารย์ต่างประเทศที่เข้ามาช่วยเหลืออยู่ก่อนแล้ว
ข้อเสนอแนะในส่วนของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่จะเน้นให้บริการการศึกษาในเขตอีสานตะวันออก ส่วนเขตอีสานใต้ก็ให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สำหรับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีขอเสนอ ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยโดยเอาจาก 8 จังหวัด นี่เป็นสิ่งสำคัญและเป็นข้อเสอนแนะของผมด้วย มหาวิทยาลัยจะได้รับรู้ความต้องการของจังหวัดต่าง ๆ ว่าเขาอยากจะมีคณะวิชาอะไรขึ้นใน มหาวิทยาลัยมีอะไรที่ขาดแคลน เขาอยากจะให้เราไปทำค่ายที่ไหน ไปช่วยอะไรเขาได้ สิ่งนี้มหาวิทยาลัยจะได้มากเลย ถ้ามีคณะกรรมการส่งเสริม เขียนวัตถุประสงค์ให้ดี ๆ ให้เขารู้ ผู้ที่จะมาเป็นกรรมการส่งเสริมมหาวิทยาลัย ควรจะเป็นชาวบ้านจริง ๆ ที่ประชาชนนับถือ ระวังพวด ส.ส. จะถือโอกาสเอาชื่อสียง เอาหัวคะแนน ส.ส.ก็ดีนะ แต่ก็อดมีเรื่องพวกนี้ไม่ได้ แต่ต้องเป็นคนดีจริง ๆ ที่เสียสละเพื่อการศึกษานะ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่รู้ทางการศึกษา เป็นผู้แทนทางการศึกษา เอามาจัดตั้งเป็นคณะกรรมการส่งเสริม ซึ่งอาจจะอยู่ในหน้าที่เป็นวาระ จะได้มีการเปลี่ยนได้ ถ้าอยู่ในวาระ 3 ปี พอถึง 3 ปี ก็เปลี่ยนไปเป็นคนใหม่มา เขาก็จะได้ถ่ายทอดกัน จะเป็นตลอดไปนี้ไม่ได้ ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีมีการดำเนินการในรูปแบบนี้หรือเปล่า ควรจะมีนะ จะได้รู้ demand จากกรรมการส่งเสริม เช่น เขาต้องการให้จัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ เราก็จะได้เอาไปจัดตั้ง สนองตอบต่อความต้องการของท้องถิ่น
จากประสบการณ์ในการบริหารงานมหาวิทยาลัย ท่านมีความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดตั้งมหาวิทยาลัยใหม่ เพื่อเสนอต่อทบวงมหาวิทยาลัยหรือรัฐบาลอย่างไร
ควรให้สิทธิ์แก่มหาวิทยาลัยที่ตั้งขึ้นใหม่คัดเลือกนักศึกษาเข้าศึกษา เป็นต้นว่านักเรียนที่สำเร็จการศึกาในแถบอีสานตะวันออก ได้มีสิทธิ์มากกว่า โดยรัฐบาลให้การสนับสนุนทางทุนการศึกษา และมีข้อผูกมัดให้อยู่ทำงานในภูมิภาคนี้ ในส่วนที่เหลือจึงเป็นสิทธิ์ของนักเรียนจากภาคอื่น ๆ ที่มหาวิทยาลัยมีสิทธิ์เลือกเอา แล้วแต่ความเหมาะสม การขยายตัวของมหาวิทยาลัย และการก่อตั้งคณะต่าง ๆ เป็นการตั้งตามกันมา มหาวิทยาลัยที่ตั้งใหม่ การจัดตั้งคณะวิชาน่าจะเป็นความต้องการของประชากรในภูมิภาคนี้เป็นเบื้องต้น หรือจากการสำรวจดูความต้องการของประชากร สำหรับคณะเกษตรศาสตร์ ควรดำเนินงานให้ครบวงจร ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ การรับทคโนโลยีสมัยใหม่ การส่งเสริมให้ตั้งโรงงานผลิตผลการเกษตรให้มากขึ้น
บริเวณแนวเขตในแปลงพืชไร่ 15 กุมภาพันธ์ 2533 ข้อมูล
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. งานวิจัยสถาบัน กองแผนงาน.(2537). ประวัติการสร้างสานมหาวิทยาลัย อุบลราชธานี : เอกสารเนื่องในวันสถาปนามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีครบรอบ 4 ปี วันที่ 30 กรกฎาคม 2537, หน้า 32-37
