Loading
กันเกรา

การอนุรักษ์พันธุ์ไม้หายาก : กันเกราไม้มงคลประจำมหาวิทยาลัย

รายงานได้นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการขยายพันธุ์ไม้กันเกรา ได้แก่ การเก็บและปรับปรุงสภาพเมล็เดพันธุ์ การเพาะเมล็ดและดูแลต้นกล้า  การศึกษาการใช้สารเร่งการเจริญเติบโตกับต้นกล้ากันเกรา การศึกษาการนำไปใช้ประโยชน์ ได้แก่ การใช้ประโยชน์โดยตรง  สรรพคุณทางยา การศึกษาการใช้ประโยชน์จากไม้กันเกราในการเป็นไม้ย้อมสีฝ้าย

กันเกราเป็นไม้โตเร็วอเนกประสงค์พื้นเมืองที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ดอกมีกลิ่นหอม นิยมนำมาร้อยมาลัยในช่วงประเพณีสงกรานต์ ในส่วนของเนื้อไม้มีสีเหลืองอ่อน เสี้ยนตรง เนื้อละเอียดมีความเหนียวและแข็ง ทนทานต่อการเข้าทำลายของปลวก มีน้ำมันอยู่ในเนื้อไม้ สามารถชักเงาได้ดีและงดงาม เหมาะสำหรับการนำมาก่อสร้างบ้านเรือน ทำเสา ประตู หน้าต่าง อกไก่ ที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน สามารถทำไม้บุผนังที่สวยงาม นำมากลึงทำเครื่องเรือน นอกจากนี้ ยังมีการนำมาทำโครงเรือ กระดูกงู เสากระโดงเรือ หมอนรางรถไฟ ชาวจีนทางใต้นิยมนำมาทำหีบจำปาใส่ศพ

กันเกรา

ไม้กันเกรามีสรรพคุณทางยา โดย เปลือกของไม้กันเกรา สามารถนำมาเข้ายาเพื่อใช้บำรุงโลหิต แก้ผิวหนังผุพอง ปวดแสบปวดร้อน ส่วนของแก่นไม้ มีรสเฝื่อน ฝาดขม ใช้เข้ายาบำรุงธาตุ แก้ไข้จับสั่น แก้อาการหืด ไอ ริดสีดวง ท้องมาน แน่นหน้าอก ลงท้องเป็นมูกเลือด แก้พิษฝีดาษ บำรุงม้าม แก้เลือด แก้ลมต่าง ๆ และเป็นยาอายุวัฒนะ

นอกจากนั้นยังพบว่า ส่วนของเปลือกลำต้นและส่วนของใบสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเป็นไม้ย้อมสีเส้นฝ้าย

การศึกษาการใช้ประโยชน์จากไม้กันเกราในการเป็นไม้ย้อมสีฝ้าย

พรรณไม้ที่มีคุณสมบัติให้สีใช้ย้อมเส้นใยได้นั้นมีหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่พบว่าเป็นไม้ยืนต้น และส่วนที่ให้สีส่วนมากมาจากส่วนของเปลือก ใบ และผล ตามลำดับและสีที่ได้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีน้ำตาล สีเหลือง และสีแดง ซึ่งการสกัดและแยกสีส่วนใหญ่จะทำการสกัดแบบธรรมดา 2 รูปแบบคือ

  1. โขลก ทุบ หรือปั่น ให้ได้น้ำสีมาผสมกับน้ำ แล้วกรองแยกเอากากออก เอาแต่น้ำใสไปใช้ย้อมสีฝ้าย
  2. ต้ม เคี่ยวประมาณ 30-120 นาที ให้ได้น้ำสีที่มีความเข็มของสีตามต้องการแล้วจึงกรองแยกกากออกนำน้ำไปใช้

ขั้นตอนวิธีการศึกษา
ในการศึกษาถึงการใช้ประโยชน์จากไม้กันเกราจึงได้ส่วนของไม้กันเกรา คือ เปลือกลำต้น ใบ และผลสดมาใช้ประโยชน์ในการเป็นพืชให้สีในการย้อมเส้นฝ้าย

1.การย้อมส้นฝ้ายด้วยสีจากเปลือกลำต้นกันเกรา นำเปลือกลำต้น จำนวน 2 กิโลกรัม มาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ นำลงต้มเคี่ยวในน้ำ 10 ลิตร เป็นเวลา 1-1/2 ช.ม. กรองแยกกากออก วัด pH ของน้ำสี แล้วจึงนำเส้นฝ้าย น้ำหนัก 70 กรัม/ใจ จำนวน 2 ใจ ลงต้มย้อม เติมจุนสี ประมาณ 50 กรัมลงในน้ำย้อม

2.การย้อมเส้นฝ้ายด้วยสีจากใบกันเกรา นำใบกันเกราจำนวน 2 กิโลกรัม ต้มเคี่ยวในน้ำ 13 ลิตร เป็นเวลา 1 ช.ม. กรองแยกใบออก วัด pH ของน้ำสี ในการย้อมเส้นฝ้ายด้วยสีจากใบกันเกราจะนำเส้นฝ้าย นำหนัก 70 กรัม/ ใจ จำนวน 2 ใจไปต้มในน้ำใบยูคาลิปตัส (น้ำใบยูคาลิปตัสเตรียมจากการนำใบยูคาลิปตัส 850 กรัมต้มในน้ำ 10 ลิตรประมาณ 1 ชม.) แล้วจึงนำเส้นฝ้ายมาต้มย้อมในน้ำสีของใบกันเกรา

3.การย้อมเส้นฝ้ายด้วยสีจากผลกันเกราสด นำผลกันเกราสดที่สุกแดงจำนวน 2 กิโลกรัมมาบดให้แตก ขย้ำให้เนื้อผลแตกมากที่สุด ในน้ำ 5 ลิตร กรองแยกเอากากออก วัด pH ของน้ำสี นำน้ำสีไปต้มย้อมเส้นฝ้าย น้ำหนัก 70 กรัม/ ใจ จำนวน 2 ใจ

ผลการศึกษา

การย้อมสีฝ้ายด้วยกันเกรา

สรุปผลการศึกษา

พบว่าส่วนของเปลือกลำต้นและส่วนของใบเท่านั้นที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการเป็นไม้ย้อมสีเล้นฝ้าย ในส่วนของผลสดการติดสีในขณะทำการย้อมจะได้สีสดสวยแต่เมื่อเส้นฝ้ายแห้งสีจะค่อย ๆจางไปและในที่สุดก็จะซีดเกือบหมดเป็นลักษณะที่เห็นไดเด่นชัดว่าการดูดซับสีจากผลสดของฝ้ายมีได้น้อยมากเมื่อเทียบกับการดูดซับสีจากส่วนของเปลือกลำต้นและส่วนของใบที่จะติดดีและอยู่ได้คงทน ซึ่งควรมีการศึกษาเพิ่มเติมในแง่ของระดับของความคงทนของสีในการย้อมเส้นฝ้าย

กันเกรา

รายละเอียดเพิ่มเติม : การอนุรักษ์พันธุ์ไม้หายาก : กันเกราไม้มงคลประจำมหาวิทยาลัย รายงานโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปี 2544