Loading

วัฒนธรรมการเลี้ยงโคพื้นเมืองของเกษตรกรตามบริเวณชายแดนแม่น้ำโขงของจังหวัดอุบลราชธานี

รายงานเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรมการเลี้ยงโคพื้นเมืองตามบริเวณพื้นที่ป่าเขาแถบชายแดนโขง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นอาชีพรองของเกษตรกร ด้วยสภาพพื้นที่ที่จำกัดเกษตรกรจะต้อนโคไปเลี้ยงบนเขาโดยเฉพาะในช่วงฤดูทำนา ขนาดของฝูงโคจะแตกต่างกันแต่เลี้ยงในพื้นที่เดียวกันซึ่งเป็นพื้นที่ที่เลี้ยงกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ การดูแลก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันในครัวเรือน ในรายงานโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปี 2542 เรื่อง วัฒนธรรมการเลี้ยงโคพื้นเมืองของเกษตรกรตามบริเวณชายแดนแม่น้ำโขงของจังหวัดอุบลราชธานี โดย วริษา สินทวีวรกุล หัวหน้าโครงการ

ผู้ดำเนินโครงการได้สรุปและวิจารณ์วัฒนธรรมการเลี้ยงโคพื้นเมืองของเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานีว่า
1 เกษตรกรผู้เลี้ยงโคพื้นเมืองตามบริเวณพื้นที่ป่าเขาแถบชายแดนแม่น้ำโขงของจังหวัดอุบลราชธานีทำการเลี้ยงโคพื้นเมืองเป็นอาชีพรองนอกเหนือจากอาชีพหลักคือการทำนา เกษตรกรนิยมเลี้ยงโคเป็นอาชีพรองเนื่องจากเมื่อว่างจาการทำนาเกษตรจะว่างงาน ไม่มีกิจกรรมทางการเกษตรอย่างอื่น จึงเลี้ยงโคเพื่อเสริมรายได้ให้กับครอบครัว เกษตรกรแต่ละรายมีจำนวนโคพื้นเมืองตั้งแต่น้อยที่สุดคือ 2 ตัว และสูงที่สุดคือมากกว่า 50 ตัว โดยเฉลี่ยต่อครอบครัวอยู่ที่ประมาณ 4-10 ตัว โคที่เลี้ยงส่วนใหญ่เป็นเพศเมีย จะมีเกษตรกรบางรายเท่านั้นที่มีโคตัวผู้เพื่อใช้ทำพันธุ์ แรงงานที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานในครอบครัวของเกษตรกรเองโดยเฉลี่ยครอบครัวละประมาณ 3-5 คน มีการแลกเปลี่ยนแรงงานกันบ้าง โดยผลัดเปลี่ยนเวรยามกัน ภายในกลุ่มครอบครัวที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ และคนในกลุ่มหรือหมู่บ้านเดียวกันที่นำโคไปปล่อยในพื้นที่เดียวกัน หรือปล่อยรวมฝูงเดียวกัน
2. ลักษณะภายนอกของโคพื้นเมืองที่เกษตรกรเลี้ยงเป็นโคที่มีขนาดเล็ก ตัวเมียโตเต็มที่หนักประมาณ 300 กิโลกรัม ตัวผู้ประมาณ 400 กิโลกรัม มีสีต่าง ๆ กัน ได้แก่สีน้ำตาลแกมแดง ดำ ด่าง ส่วนใหญ่จะเป็นสีแดง หน้ายาว บอบบง หน้าผากแคบ ตาขนาดปานกลาง ขนหน้าสั้นเกรียน จมูกแคบ ใบหูแหลม มีเขาสั้นถึงยาวปานกลาง ตัวเมียมักมีเข้าสั้นหรือไม่มีเขา ลำคอบอบบาง ค่อนข้างยาว มีเหนียงใต้คอ กระดูก ขาบอบบางค่อนข้างยาว ลำตัวดูป่องตรงกลางเมื่อมองจากด้านบน มีนิสัยขี้ตื่น รูปร่างปราดเปรียว
3. วิธีการเลี้ยงโคพื้นเมืองของเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากสภาพพื้นที่ทางการเกษตรมีน้อย เมื่อถึงฤดูกาลทำนาโคมีพื้นที่หากินลดลง หรือแทบจะไม่มีเลย ประกอบกับเกษตรกรต้องใช้แรงงานในการทำนาเป็นส่วนใหญ่ไม่มีเวลาเลี้ยงดูโค ประกอบกับบนเขามีอาหารโคที่สมบูรณ์ ไม่รบกวนข้าวที่ปลูก ด้วยเหตุนี้เกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวจึงทำการต้อนโคขึ้นไปไว้บนเขา โดยในช่วงฤดูทำนาเมื่อเริ่มมีการเตรียมดิน หว่านกล้า หรือเมื่อฝนเริ่มมา เกษตรจะมีการรวมกลุ่มกันเพื่อรวมโค และต้อนไปเลี้ยงไว้บนเขา มีบางรายต่างฝ่ายต่างต้อนโคของตนไปเอง แล้วไปเจอกันที่บนเขา แล้วแต่ความสะดวกของเกษตรกรแต่ละราย ๆ ไป ในขณะอยู่บนเขาโคจะมีการรวมเป็นฝูงขนาดแตกต่างกันออกไป แต่พื้นที่ที่โคอยู่จะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน พื้นที่ที่เลี้ยงบนเขาจะเป็นพื้นที่ที่ทำการเลี้ยงมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ บางฝูงต้องมีเกษตรกรไปเฝ้าเพื่อกันไม่ให้ลงมาจากเขามากินข้าวที่นา ในการเลี้ยงโคสมาชิกในครอบครัวและตัวเกษตรกรเองจะช่วยกัน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นไปดูแลโคเมื่อเกษตรกรขึ้นไปดูโคจะเลยหาของป่าเพื่อใช้เป็นอาหารในครอบครัวติดมือลงมาจากเขาด้วย เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จจึงทำการต้อนลงจากเขา บางฝูงก็จะลงมาเอง มีเกษตรกรบางรายเลี้ยงไว้บนเขาตลอดทั้งปีก็มีเนื่องจากสะดวกต่อเจ้าของในการจัดการเลี้ยงดู โคบางกลุ่มจะถูกต้อนลงจากเขาให้มาอยู่ในพื้นที่นาตลอดหลังการเก็บเกี่ยว จะเห็นได้ว่ารูปแบบการเลี้ยงโคของเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวด้วยสภาพพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูง และพื้นที่ราบบนหลังเขา และหุบเขามีลักษณะเป็นลูกคลื่นลอนลึกบ้าง ตื้นบ้าง สลับกันไป บางพื้นที่มีพื้นหินโผล่ มีสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหิน มีพื้นที่ราบในการทำการเกษตรเพียงเล็กน้อย จากการที่เกษตรกรมีพื้นที่ราบในการทำนาที่จำกัด จึงทำให้มีการปรับรูปแบบวิธีการเลี้ยงและการจัดการโคพื้นเมืองเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ ภูมิประเทศ และวิถีการดำรงชีพของตนมาตั้งแต่รุ่นของบรรพบุรุษสืบต่อกันมา
4. ปัญหาของการเลี้ยงโคพื้นเมืองของเกษตรกรตามบริเวณพื้นที่ป่าเขาแถบชายแดนแม่น้ำโขงของจังหวัดอุบลราชธานี คือเรื่องของพื้นที่ที่ใช้ในการเลี้ยงเนื่องจากพื้นที่ที่ใช้เลี้ยงโคเป็นเขตอุทยานทับกับที่ป่าชุมชนของเกษตรกร การแบ่งเขตไม่ชัดเจน อุทยานไม่ต้องการให้เกษตรกรเอาโคเข้าไปเลี้ยงในพื้นที่ ซึ่งได้รับการแก้ไขโดยการการตกลงกับเจ้าหน้าที่โดยการขอใช้พื้นที่เพื่อการเลี้ยงสัตว์ ไม่ได้มีการบุกรุกถากถางเพื่อทำการเกษตรชนิดอื่น จะเห็นได้ว่าโคพื้นเมืองแทบจะไม่มีปัญหาในด้านอื่น ๆ ที่สินค้าเกษตรทั่วไปประสพปัญหาอาทิการตลาด หรือการจัดการ การตลาดของการเลี้ยงโคพื้นเมืองไม่มีปัญหา เกษตรกรมีอำนาจในการต่อรองสูง ความต้องการของตลาดมีสูง การลงทุนต่ำ เกษตรกรต้องการขาย มีพ่อค้าจากโขงเจียม ศรีเมืองใหม่เข้ามาถามซื้อเป็นประจำ เกษตรกรกำหนดราคา ถ้าพ่อค้าและเกษตรกรต่างพอใจในราคาที่ตกลงกันก็ซื้อขายทันที ปัญหาคือวัวไม่พอที่จะขาย ราคาเป็นที่น่าพอใจ มีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่ จึงเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ

รายละเอียดเพิ่มเติม : วัฒนธรรมการเลี้ยงโคพื้นเมืองของเกษตรกรตามบริเวณชายแดนแม่น้ำโขงของจังหวัดอุบลราชธานี

บรรณานุกรม

วริษา สินทวีวรกุล,หัวหน้าโครงการ. (2542). รายงานโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วัฒนธรรมการเลี้ยงโคพื้นเมืองของเกษตรกรตามบริเวณชายแดนแม่น้ำโขงของจังหวัดอุบลราชธานี. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.