Loading

การศึกษาอัตลักษณ์ผ้าทอโบราณชนเผ่าจังหวัดมุกดาหาร

การศึกษาอัตลักษณ์ผ้าทอโบราณชนเผ่าในจังหวัดมุกดาหาร เป็นการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผ้าของชนเผ่า เพื่ออนุรักษ์และเผยแพร่อัตลักษณ์อันสวยงามของแต่ละชนเผ่า และสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาติพันธ์ วิถีชีวิต ฮีตคอง ประเพณี ความเชื่อ วัฒนธรรม-สังคม และอื่น ๆ ของชนเผ่าต่าง ๆ ที่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ และภูมิปัญญาดั้งเดิมในการดำรงชีวิต แม้จะเป็นวิถีชีวิตที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามกระแสสังคมปัจจุบัน โดยชนเผ่าในจังหวัดมุกดาหารที่ทำการศึกษา จำนวน 8 ชนเผ่า ได้แก่ ชนเผ่าไทยลาว ชนเผ่าผู้ไทย ชนเผ่าไทยข่า ชนเผ่ากะเลิง ชนเผ่าไทยกระโซ่ ชนเผ่าไทยย้อ ชนเผ่าไทยแสก และชนเผ่าไทยกุลา

องค์ความรู้จากรายงานฯ

อัตลักษณ์ผ้าทอชนเผ่าในจังหวัดมุกดาหาร สามารถแบ่งได้ 3 ลักษณะ ดังนี้

1. การย้อม สามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้

  • ผ้าย้อมสีธรรมชาติ
  • หมักโคลน

2. การทอ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ ดังนี้

  • ผ้ามัดหมี่
  • ผ้าขิด
  • ผ้าเหยียบ

3. ชนิดของผ้า

  • ผ้านุ่ง
  • ผ้าห่ม
  • ผ้าสไบ/ผ้าพันคอ
  • เสื้อเย็บมือ

ผ้าหมักโคลน

ผ้าฝ้าย-ผ้าไหมเป็นภูมิปัญญาของชาวภูไท ที่สืบทอดกันมายาวนาน รวมไปถึงการย้อมสีผ้า โดยใช้สีที่มาจากพันธุ์พืชวัสดุต่าง ๆ ที่ให้สีตามธรรมชาติหลากหลายชนิด ซึ่งการหมักโคลนผ้า ก่อนจะทำการย้อมก็จะทำให้ผ้ามีคุณภาพคงทน สีไม่ตกและไม่ซีดจางง่าย ๆ พันธุ์ไม้ที่นำมาใช้ย้อมหาง่ายในท้องถิ่น และมีการปลูกทดแทน เพื่อที่จะได้มีวัตถุดิบใช้อย่างต่อเนื่อง และทางกลุ่มก็ยังได้มีการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผลิตผ้าพื้นเมืองให้มีคุณภาพดี มีสีสม่ำเสมอคงทนต่อแสง และใช้งานได้ยาวนาน โดยการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านด้วยวิธี หมักโคลน ก่อนการย้อมสี

วิธีหมักโคลน

โคลนที่ใช้ในการหมักนั้นจะใช้โคลนที่หนองน้ำหนองสูงในหมู่บ้านที่มีอายุยาวนานประมาณ 300-400 ปี ซึ่งโคลนในท้องถิ่นอื่นก็น่าจะสามารถใช้ได้ แต่ควรใช้โคลนดินเหนียวและเนื้อโคลนต้องละเอียด ไม่มีเม็ดดินทรายปะปน

ขั้นตอนการทำผ้าหมักโคลนก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแต่จะมีหลายขั้นตอนเท่านั้น ต้องใช้ความอดทนในการทำ โดยเริ่มจากนำโคลนขึ้นมากรองด้วยตะแกรงเพื่อคัดกรองเอาพวกเม็ดกรวดเม็ดดินออกให้เหลือแต่เนื้อโคลนล้าน ๆ แล้วนำไปผสมน้ำและเกลือตามความเหมาะสม คนให้เข้ากัน นำเส้นใยผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมลงไปแช่ในโคลนที่เตรียมไว้ โดยใช้เวลาในการหมักประมาณ 3-6 ชั่วโมง ซึ่งสีของเส้นใยจะอ่อนหรือเข้มขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการหมัก เมื่อหมักได้เวลาที่ต้องการก็นำขึ้นมาบิด จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้ง พอเส้นใยแห้งก็นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำกลับไปตากแดดให้แห้งอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงนำไปทำการย้อมสีตามที่ต้องการ

รายละเอียดเพิ่มเติม : การศึกษาอัตลักษณ์ผ้าทอโบราณชนเผ่าจังหวัดมุกดาหาร รายงานโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปี 2554

บรรณานุกรม

ศุภลักษณ์ มาคูณตน, หัวหน้าโครงการ. (2554). รายงานโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี การศึกษาอัตลักษณ์ผ้าทอโบราณชนเผ่าจังหวัดมุกดาหาร. อุบลราชธานี: คณะศิลปประยุกต์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.