อิทธิพลของสื่อ ความภาคภูมิใจในตนเอง และภาพลักษณ์ร่างกายที่มีผลต่อการยอมรับการทำศัลยกรรมความงาม

การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาอิทธิพลของสื่อ ความภาคภูมิใจในตนเอง และภาพลักษณ์ร่างกายที่มีผลต่อการยอมรับการทำศัลยกรรมความงาม ซึ่งเป็นการวิจัยความสัมพันธ์เชิงเปรียบเทียบ โดยผสานทั้งวิธีเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ลักษณะส่วนบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการยอมรับการทำศัลยกรรมความงาม และ (2) อิทธิพลของสื่อ ความภาคภูมิใจในตนเอง และภาพลักษณ์ร่างกายที่มีผลต่อการยอมรับการทำศัลยกรรมความงาม กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคคลทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล คือ แบบสอบถาม ประกอบด้วย แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีอิทธิพลของสื่อ ความคิดเห็นที่มีต่อความภาคภูมิใจในตนเอง ความคิดเห็นที่มีต่อภาพลักษณ์ร่างกาย และความคิดเห็นที่มีต่อการยอมรับการทำศัลยกรรมความงาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.865 0.953 0.782 และ 0.915 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าความถี่ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแตกต่างสถิติที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุ สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูล จำนวน 15 ราย แบ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการศัลยกรรมความงาม จำนวน 5 ราย และผู้ใช้บริการศัลยกรรมความงาม จำนวน 10 คน ผลการศึกษาพบว่า (1) ลักษณะส่วนบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการยอมรับการทำศัลยกรรมความงาม โดย เพศ อายุ และสถานภาพการสมรส มีอิทธิพลต่อการยอมรับการทำศัลยกรรมความงามอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ (2) อิทธิพลของสื่อ ความภาคภูมิใจในตนเอง และภาพลักษณ์ร่างกายที่มีผลต่อการยอมรับการทำศัลยกรรมความงามอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยสามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงของการยอมรับการทำศัลยกรรมความงามได้ร้อยละ 37.7