ศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการที่มีผลต่อประสิทธิผลในการบริหารจัดการธุรกิจ : กรณีศึกษา กิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในแขวงบอลิคำไชย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

Titleศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการที่มีผลต่อประสิทธิผลในการบริหารจัดการธุรกิจ : กรณีศึกษา กิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในแขวงบอลิคำไชย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Publication Typeวิทยานิพนธ์/Thesis
Year of Publication2555
Authorsติ๋ม มณีคำ
Degreeบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
Institutionคณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
Cityอุบลราชธานี
Call NumberHD ต391 2555
Keywordsการจัดการธุรกิจ--ลาว, การบริหารจัดการธุรกิจ, ผู้ประกอบการ, วิสาหกิจขนาดกลาง, วิสาหกิจขนาดย่อม
Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ประกอบการที่มีผลต่อประสิทธิผลในการบริหารจัดการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและศึกษาศักยภาพของการเป็นผู้ประกอบการที่มีผลกระทบต่อประสิทธิผลในการบริหารจัดการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย้อมในแขวงบอลิคำไชย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 120 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม โดยสถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างด้วย t-test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way-ANOVA) และวิเคราะห์ความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธี Scheffe ใช้การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันและการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ
ผลการวิจัย พบว่า ความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยประสิทธิผลในการบริหารจัดการธุรกิจของผู้ประกอบการ เมื่อจำแนกตามข้อมูลทั่วไปของผู้ประกอบการ พบว่า กลุ่มอายุ 30-40 ปี มีประสิทธิผลในการบริหารจัดการธุรกิจ ด้านการผลิตมากกว่า กลุ่มอายุ 41-50 ปี สำหรับด้านประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจ พบว่า ประสิทธิผลในการบริหารจัดการธุรกิจของผู้ประกอบการ ด้านความยืดหยุ่นของระบบงานแตกต่างกัน ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณระหว่างศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการกับประสิทธิผลในการบริหารจัดการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พบว่า ศักยภาพแห่งการวางแผนและศักยภาพแห่งอำนาจ มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลในการบริหารจัดการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณเท่ากับ .642 (R=.642) และสามารถร่วมกันพยากรณ์อิทธิพลต่อประสิทธิผลในการบริหารจัดการธุรกิจได้
จากผลการศึกษาข้างต้น จะเห็นได้ว่า คุณลักษณะที่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมควรจะต้องคำนึงถึงและเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องสร้างและพัฒนาขึ้นมา เพื่อใช้ในการเกื้อหนุนธุรกิจให้ไปสู่ความสำเร็จอย่างมีประสิทธิผล ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แผนกอุตสาหกรรมการค้า และสมาคมนักธุรกิจประจำจังหวัดสามารถพิจารณาศักยภาพด้านดังกล่าวของผู้ประกอบที่ได้ในครั้งนี้ ไปใช้ประกอบสำหรับวางแผนพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ รวมทั้งเป็นแนวทางพื้นฐานในการกำหนดหลักสูตรสำหรับการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของลาว อันจะเป็นการช่วยให้ผู้ประกอบการมีความสามารถในการกำหนดเป้าหมาย การวางแผน การกำหนดกลยุทธ์ของกิจการไว้ล่วงหน้าเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานในอนาคต และส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้สามารถบริหารจัดการธุรกิจของตนเองให้คงอยู่และเติบโตต่อไปได้อย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

Title Alternate The effects of entrepreneur's potentiality on the business management: a case study of small and medium entreprises in Bolikhamxay province, the Lao people's democratic republic
Fulltext: