ฟังลำล่อง เรื่อง สิทถัตถะออกบวช โดย หมอลำฤทธิ์ ไกยกิจ และ หมอลำสว่าง เชื้อหงษ์

ลำล่อง เรื่อง สิทธัตถะออกบวช

บาดนี้ฟังเอาเรื่องตอนสี่พุทธประวัติ อย่ามีโทนามัธชื่นบาลหัวแย้ม คอยถ้าแนมฟังเรื่องพระโคดมตอนสี่ ตอนเผิ่นหนีไปบำเพ็ญบวชสร้างไกลบ้านย่านนคร ตอนสี่ภาคคู่ช้อนลาอ่อนพิมพา จากบุตตราราหุลลูกโตหนีซ่ำ บ่คิดนำยังบ้างพระองค์วางไลป่อย ละจากเมียและลูกน้อยไปจ้อยบ่ห่วงใย เหตุที่เผิ่นสิได้ไลจากปางป๋า อุปมาในใจใคร่ครวญขบวนนี้ มืดแล้วยังมีแจ้งแสงใสให้สว่าง สุขทุกข์มีประกอบบ้างประจำไว้โลกคน ร้อนแล้วยังย่อพ้นวนจอดจำหนาว ขาวแล้วยังเป็นดำมุ่ยนำสมแหล่ ชาติเกิดแก่เจ็บตายสิบ่มีแนวแก้เป็นรือพระองค์ว่า เห็นแต่บรรพชามีหนทางท่อนั้นอบายแก้แห่งเดียว พระบ่คิดเกี่ยวข้องของบ่แน่ทั้งหมด หนีไปบำเพ็ญพตแน่จริงหลิงได้ ตัดสินใจพระองค์ใด้ใจเดียวเด็ดเดี่ยว รำพึงอยู่คนเดียวหัวใจเป็นเบิ่งบ่างบางมื่อบ่อม่วนยิ้น บ่สอ้อนทุกชิ้นบ่อยินชื่นกับใผในพระทัยทรวงคิดฮ่ำฮอนเฮฮ้อน หรือว้าจำใจข่อนบารมีมาจ่น บ่อาจทนอยู่ได้พระทัยฮ้อนหง่วมเหงา มื่อนั่นในตอนเช้าออกไปเที่ยวชมสวน พระจึ่งชวนนายสันถ่วนพะลันเตรียมม้า ประดับดาดีแล้วพาพลออกหลู่หลั่ง เสด็จเครื้อนจาวังนักสหนมหนุ่มแหน่นถนนกว้างล่วงกาย คราวนั้นอินทราเจ้าเทวดาหลิงหล่ำ ฮู้ว่าองค์จอมธรรมเสด็จออกประพาสเหล่นสวนกว้างให้ส่วงใจ พระอินทราจั่งใช้เทวราชวิทสุกรรม ให้มาทำเป็นคนแก่ชราทรงล้า พระองค์เดินไปหน่าหาโพธิญาณหล่ำ วิทสุกรรมนิรมิตฮูบฮ้ายกายเฒ่าแก่ชรา ศักไม้เท้าผ่านหน่าล้าเมื่อยกระหิวหาย กายไปหาโพธิญานให้หล่ำแลหลิงพ้อ แม่นยังนอแนวนั้นนายสันให้บอกแน่ นายสันแก้บอกให้ว้าคนเฒ่าเกิดดน หนีไปใสกระบ่พ้นประจนแก่คือกัน บ่ว้าตัวของเราท่านพระองค์กระคงพ้อ บ่มีหลอเหลือแล้วใผมันกระต้องแก่นายสันแก้บอกให้พระองค์เจ้าเล่าตลึง พอรู้สึกซาบซึ้งครู่หนึ่งกระพอใจศบกระไลในตาอั่งอุราแหงนหน่ากับนายสันคืนบ้านบ่ถึงสวนฮวนฮ่ำ พอราตรีล่วงล่ำวันหน่าถ่ายอรุณ แสงอาทิตย์พรุ่งพ้นเสด็จอีกวันหลังมีความหวังพระทัยทรงดั่งเดิมประสงค์ย้าย เตรียมสีพลขวาซ้ายกับนายสันอ้ายเสี่ยว เสนตร์เทียมขอกข่างพระองค์เจ้าบ่รอ มื่อนั่นไปพบพ้อคนพยาธิโลคา สิทธิถุกุมารกระเลาถามคือเค้า นายสันเลยจาเว้าแสดงกลอนซี่แจ่ง แสดงเรื่องบอกให้ในเรื่องโลกคน หนีไปใสกระบ่พ้นประจนแก่เจ็บเป็น พระองค์เห็นเต็มตาทัศณาเทียมจ้อง กับนายสันคืนห่องพะลันเทียวโลดบ่เที่ยว เหลียวเห็นพระญาติไช้ไวฟ้าวต่าววัง เออบาดนี้วันหลัง ๆ กระจั่งใด๋ไปพบซากคนตาย เหลียวดูดายพองเขียวไข่ตึงเหม์นตึ้ง หนั่งตะลึงตะรังเว้าถามสันสหายซีบ นายสันบอกแจ้งแสดงเว้าเห่ลาทะยาย นี้ละท่านเขาว้าคนตายซากศพหงายแพพังเหน่าหนังกุดจิ้นพอได้ยินเสียงเพื่อนสหายเตือนบอกกล่าว นายสันฟ้าวริบร้อนนครก้าวบ่ล่วงเกิน ราชดำเนินวันหน่าพระทีหนั่งคันทะกะ วันหลังมาดีใจดั่งเดิมประสงค์ดั้น กับนายสันสหายแก้ววันหลังครั่งที่สี่ เสด็จไปครั่งนี้เผอิญพ้อแต่พระสงฆ์ พระองค์ถามแต่เพื่อนสหายเสี่ยวเทียวพะลัน คนแนวใด๋นะสันเผิ่นหนุ่งเหลืองหัวโล้น มองดูคนชุมนี้งามดีแปลกต่าง นายสันเลยกล่าวอ้างแสดงข่อต่อจา สมมะณะพวกนี้เผิ่นถือเพศบรรณพระชิตผิดกับเฮาชาวชนมนุษย์คนชาวบ้าน ระจากการรายฮ้ายความตายเจ็บแก่ สงฆ์นี้ดีเลิศแท้เผินหนีพ้นหมู่มารพระสีธาตุเกิดปิติทราบซ้านคิดอ่านทางสิไปสาแลว มะโนบาลเบ้ยใสดั่งวิลัยพูลแก้ว ดวงวิลัยผุดแผ่วแวววาวขาวสง่า เสด็จไปมาพอถึงสวนดอกไม้พระทัยกว้างส่วงวร ชมหมู่พั่วดอกซ้อนหอมอ่อนสออนอก สักกุณาแนวนกสงวรสออนจ้าว คะณะคราวยามนั่นบรรทมลุกตื่น ในวันคืนเมื่อนั่นนอนนิ่งตั้งแต่เว็น นักสหนมหนุ่มเหล่นขับกล่อมมายา บ่เหลียวมองพอตากระเหล่านอนเฉยนิ่ง เพราะคะนิงถึงเจ้าบรรพชาเป็นห่วงมโนในศกง้วงครอบถ่าแต่สิหนี พอราตรีเที่ยงข่อนขับกรอมบำเลอ คะณะนงนางเธอคักแล้วนอนหลับแล้ว

พอราตรีสงัดแผ่วพระองค์นอนสะเดิดตื่น ทอดพระเนตรลุกขึ้นเห็นฮ้ายหน่ายสะหนม บางคนนอนหมูบก้มก่องดากป๋าอี๋ บางคนเป็นกีซีดังชะนีตายแล้ว ลางคนเสียงกัดแข่วคือเสียงเขียดตาปาดลางคนทาด ๆ กล้องโกนหึ้มกระหึ่มคาง ลางคนสิ่นบาดข่างวางอยู่บนคอ ลางคน)สองนอหน่อกระเจียวดำปี้ ลางคนวือ ๆ ไห่น้ำตาไหลโห่งทางหล่าง ลางคนเกาดูกข่างโต๊ดปึ้งผึ้งหลาย พระองค์เห็นฮูบฮ้ายเบื่อหน่ายพอปานผี ควรกูเอาตนหนีจากโคงโขงฮ้าย พอดีเอาตนย้ายเดินกายเนตทะเน่งทอดพระเนตรแลเรงเห็นพิมพาหน่อแก้วเลยแจวเอิ้นสั่งขว้าน พิมพาเอยเจ้าผู้เนื่องเลิศล่วนไห่เลี้ยงอ่อนราหุล บุญผะหลาของเฮาใด้ห่วมเตียงแต่เพียงนี้ เผิ่นจั่งมีโคงขึ้นลานางอยู่ในบ่อน พิมพานอนมิดอิ้งติ้งพระองค์เอิ้นสั่งลา สั่งลา

หมายเหตุ : กลอนลำอาจไม่ตรงกับเสียงที่หมอลำร้อง อาจเปลี่ยนไปตามลีลาของหมอลำแต่ละคน

หมอลำกลอน (ฝ่ายชาย) : นายฤทธิ์ ไกยกิจ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

หมอลำกลอน (ฝ่ายหญิง) : นายสว่าง เชื้อหงส์ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี