เสียงและบทสวดสู่ขวัญธรรมดา โดย นายดอน ทานะมัย

“ศรี ศรี สิทธิพระพร บวรพิเศษ อติเรกเตโช ชัยมงคลาดิเรก อเนกสวัสดี ไมตรีจงมีแก่ ท้าวพญา เสนาอำมาตย์ศรีธาตุราชกุมาร ให้อยู่สุขสำราญ ตราบต่อเท่าภริยา ทั้งบุตตาและลูกเต้า ขอให้ได้เป็นเจ้าเป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย คิงสำบายบางล้ำเลิศ ข้าแก้ว เกิดกลางโฮงทังรี้พลแลไพร่น้อย อายค้อยจากชีวัง ขอให้มีอายุยืนยาวบ่น้อย ขอให้ได้ฮอดฮ้อยเก้าขวบเนานาน ฝูงหมู่ศัตรูมารอย่ามาเบียดบังได้ ขอให้พระแก่นไท้มาตรัสส่องสรญาณ ลงมาโจมขวัญหลานเจ้าให้ใหญ่สูง ลงมาจูงขวัญหลานเจ้าขึ้นให้กว้าง

ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมือดี ศรีศรีมื้อนี้แม่นมื้อหมั้นหมั้นให้เจ้าหมั้นยิ่งกว่าก้อนผาแอ่น หมั้นให้เจ้ายิ่งกว่าแท่นพระจวงพระจันทร์ หมั้นให้เจ้าหมั้นยิ่งกว่าเครือเขาหลวงไกรสาส หมั้นให้เจ้าหมั้นยิ่งกว่าอากาศศูนตะวัน หมั้นให้เจ้าหมั้นกว่าพระจันทร์ ใสส่องแจ้ง หมั้นให้เจ้าหมั้นยิ่งกว่าเขากวางเดือนสี่ หมั้นให้เจ้าหมั้นยิ่งกว่าเสากี่ลูกสาวพญาแถน พญาพรหมฟากฟ้า มื้อนี้แม่นมื้อชะง้า หมอเฒ่าว่ามื้อแข็งวันดี วันดิถีอมุตตโชคสิทธิโยคพร้อมอุตตมังคลา เพิ่นจึงไปอาราธนาอาจารผู้ฉลาด มานั่งอาสน์คูณขวัญคูณขวัญ ขึ้นเสมอจอมผาสารท คูณขวัญขึ้นเสมอธาตุศรีจันทร์ มื้อนี้แน่นมื้อสันวันนี้แม่นวันดี วันดีถือมุตตโชค โตกนี้หากแม่น โตกไม้จันทร์ขันนี้หากแม่นขันไม้แก้ว ขุนนางตกแต่งแล้วจึงให้ข้อยคูณหัว วันนี้แม่นวันดี ข้อยจึงสู่ขวัญแก้วกู่เกิดกลางเมือง บุญเฮืองงามยิ่งย้อย ทั้งหนุ่มน้อยแลปานกลางทังสาวฮามแลเฒ่าแก่ พ่อแม่พร้อมลูกเต้าเนตรนารีทั้งเศรษฐีแลถ้วยค้า ถ้วนหน้าหมู่ชาวเมือง บุญเฮืองงามเลิศฟ้า ขึ้นขี่คอม้าเอิ้นเฮียกเอาขวัญ มาพลันพร่ำพร้อม เถ้าแก่มานั่งล้อมเจ้าอยู่สอนลอน เหมิดแต่เฮาท่อนี้แล้ว ยอผ้าขวัญขึ้นมันบ่มีแกน เหมิดแต่เฮาท่อนี้แล้ว ยอพาขวัญขึ้นมันก็บ่มีได้ ขอแก่พระแก่นไท้เจ้าผู้มีบุญ มาช่อยคูณช่อยยอขวัญหลานเจ้าเนอ ข้อยจักเชิญเอาเจ้ามาด ฟ้าผู้อยู่ก้ำฝ่ายเหนือ มาช่อยคุณช่อยยอขวัญหลานเจ้าเนอ ข้อยจักเชิญเอานางคำเฝือผู้อยู่ก้ำฝ่ายใต้ มาช่อยคูณช่อยยอขวัญหลานเจ้าเนอ ข้อยจักเชิญเอานางแอกไค้ ผู้อยู่หออาสนาคำ มาช่อยคูณช่อยหลานเจ้าเนอ สิบหมอสดำลุกมาแต่ภูน้อยมาคูณช่วยยอ ขวัญหลานเจ้าเยอ สามสิบหมอน้อยลุกมาแต่เมืองหลวง มาช่อยคูณช่อยยอขวัญหลานเจ้าเนอ สี่สิบหมอหลวงลุกมาแต่เมืองฟ้า มาช่อยคูณช่อยยอขวัญหลานเจ้าเนอ ห้าสิบหมอกล้าลุกมาแต่ภูหอภูโฮงมาช่อยคูณช่อยยอขวัญหลานเจ้าเนอ หมออันนี้เป็นหมอกระจา คาถาอันนี้คาถาตั้งแต่เค้า หมอเฒ่าแต่โบราณเจ็ดใบย่อเพิ่นซิเอามาหมูนเจ้าแล้ว เจ็ดใบคูณเพิ่นซิเอามาค้ำเจ้าแล้ว น้ำเตาแก้วออกบ่กินเย็น ก็หากเป็นดีหลีเหมือนระสีอยู่ฟากฟ้า มีข้อยข้าหลวงหลาย งัวควายหลายคับคอก ช้างม้าออกเนืองนัน คำตันแก้ววิเศษ หน่อแก้วเกิดกลางเมือง คำเหลืองไม้โพธิ์ไทรสีไววรแก่นหน้า คนแก่กล้านั้นแม่นหุระมาน คนหาญนั้นแม่นท้าวสังครีพ ถีบม้าเก้วอวนเข้าคูณขวัญ มาเยอขวัญเยอ ขวัญเจ้าไปปลูกกำพลูเป็นหากก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปปลูกหมากเป็นใบก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปปลูกหัวสิงใคเขียวอ่อน ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้ มานำทางคนท่อง มานำป่องคนเทียวมากินข้าวต้มแลของหวาน มากินน้ำตาลแลน้ำอ้อย หมอเฒ่าเอิ้นจ้อยๆ ขวัญเจ้าให้ต่าวมา มาเยอขวัญเอย

ขวัญในแลขวัญนอกขวัญขอกแลขวัญคาง ขวัญแอวบางกลมกิ่ว ขวัญท้องน้อยแลฮาวนม ขวัญผมดำดูอาจ ขวัญปากต้านแล้วเจระจา ขวัญตาแลขวัญคิ้ว ขวัญนิ้วแลขวัญแขน ขวัญขาแพนกลางไหล่ ระใหม่นั่นขวัญหู ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้ มาเยอขวัญเอย

กินข้าวผีให้เจ้าฮาก เคี้ยวหมากผีให้เจ้าคาย ให้เจ้าคืนมาดายท้องเปล่า ให้เจ้ามาอยู่สืบสร้างดอมแม่มารดาทังปิตาและเชื้อโคตร อย่ากิ้วโกรธโกธา ให้เจ้ามารักษาตนตัวเจ้า ตราบต่อเฒ่า ทียระฆาก็ข้าเทอญ”

หมายเหตุ : บทสู่ขวัญอาจไม่ตรงกับเสียงที่หมอพราหมณ์สวด อาจเปลี่ยนไปตามลีลาของหมอพราหมณ์แต่ละคน