เสียงและบทสวดสู่ขวัญน้อยก่อนแต่งงาน โดย นายสมัย วงษา

“ศรี ศรี วันนี้เป็นวันดี วันดิถีอมุตตะโชค โตกใบนี้แม่นโตกไม้จันทน์ ขันใบนี้แม่นขันไม้แก้ว ขุนนางตกแต่งแล้วจึงยอมาเฮียกเอาขวัญว่า เอหิ ตาตะ ปิยะ ปุตตะ (ถ้าผู้หญิง เอหิ อัมมะ ปิยา ธิตา) ปูเรถะ มะมะ ปารมิง หทยัง เม ภิสัญเจถ กโรถวจนัง มม อาคัจฉาหีติ ดังนี้เป็นเค้า ขวัญเจ้าจงเข้ามา บัดนี้ข้าจักเล่าพากย์พื้นดารา แต่คราวแม่เจ้าถือภาร์ปฏิสนธิฮ่วมห้องเข้าสู่ท้องแม่มารดา คันนานมาได้สิบเดือนล่วงแล้ว แม่เจ้าจึงสะเทือนเจ็บปวดท้อง ฝูงพี่น้องจึงแล่นมาหา ฝูงตายายเพิ่นก็ขึ้นมาล่ำ แม่เจ้าซ้ำเจ็บอยู่ฮีฮักฮีฮ่อน นอนแล้วลุกแม่เจ้าเจ็บชีชุกชีเชื่อน ให้กลิ้งเกลื่อนไปมา เหมือนดังชีวาจัดขาดเป็นดั่งจักมรณาตเมี้ยนตายไป แม่ก็ทนบ่ไหวจึงม้อย น้อยหนึ่งบ่มีนาน แม่เจ้าจึงประสูติลูกม้มอุทร แม่นผู้หญิงตกหงาย แม่นผู้ชายตกคว่ำ แม่เจ้าเป็นบ้าอยู่งมงัว บางพ่องมือคัวหาสายแฮ่ บางพ่องแผ่สายบือ สองมือโจมลูกล้าง แล้วจึงโจมใส่ด้งกว้าง ไปผอกผีพรายไปผายผีป่า นกเค้ามันฮู้ฮ้องกูกเอาขวัญว่า กูหุก กูหุก กุกกู กุกกู แม่นลูกสูเอาสามื้อนี้ กลายมื้อนี้วันหน้าลูกกู แม่จึงเลี้ยงแลดู แม่อุ้มชูใส่อู่ แม่เจ้าจึงอยู่ในไฟ กวยเจ้าไปมาอยู่ตีต้อน ๆ แม่เจ้ากินน้ำฮ้อนปากเปื่อยโพงสุก ไฟแฮ่งลุกแม่เจ้าหนหวย อรทนอรทวยหัวใจไกวบ่ได้ด่าป้อย ขวัญอ่อนน้อยคำหล้าอย่าได้วอน เจ้าจึงนอนอยู่อู่สายฝ้าย เจ้าจึงย้ายมาอู่สายไหม พ่อแม่เจ้ายังจงใจฮักฮ่อ อันนี้หากแม่นพ่อปิตาเจ้าแล้ว อันนี้หากแม่นแม่คีงเจ้าแล้ว นมแม่ฮ้าวให้เจ้าค่อยกิน ผ้าทังผืนแม่ห่มเจ้าไว้ เดี๊กซักไซ้เจ้าจึงตื่นกินนม แม่เจ้ายังชมบ่เปิด แม่กำเนิดจึงหน่ายจึงชัง เฮ็ดลังตังเขาจึงได้ไล่ฆ่า เจ้ามาแล้วได้มาเกิดเป็นลูกแก้วพ่อแม่บุญเฮือง คำเหลืองสีระใหม่ โพธิ์ไทรให้มาคูณมายอเจ้าเนอ โพธิ์สีใสจะแจ่มหน้าผู้แก่กล้าให้มาคูณมายอเจ้าเนอ คนหาญแม่นท้าวสังครีพให้มาคูณมายอเจ้าเนอ ให้ฮีบนำเอาขวัญคืนมาอย่าได้เที่ยว พ่อแม่เจ้ายังเหนี่ยววอนหา ทังตายายและปู่ย่าพร้อมกันเอิ้นชีชีชั่วเอาขวัญว่า อาคัจฉาหิ ขวัญเจ้าจงเข้ามา ดูราลูกฮักแม่มื้อนี้แม่นมื้อดีวันนี้มีศรีเค้าคื่น เป็นวันดีลื่นล้ำผาบแพ้ศัตรู หมอคูณดูว่าเป็นโชค วันหายโศกสัพพะโรคา ขวัญเจ้าจงมาเจริญศรีสมบัติเท่าเฒ่าตราบต่อเท่าทั่วชีวัง ฝนตกเจ้าอย่าได้ไปกินน้ำฮอยกระฮอก แดดออกเจ้าอย่าได้ไปกินน้ำฮอยงัวฮอยควาย พ่อแม่เจ้ายังขวนขวายมักไค่ เจ้าใหญ่แล้วพ่อแม่สอนให้นอนก็นอน พ่อแม่สอนให้ฮู้กะฮู้ อย่าให้เสียแฮงแม่เจ้าเลี้ยงขดสแคงคีคู้ ให้เจ้ากินนม คีงเจ้ากลมไผเห็นก็อยากส่อง เนื้อเจ้าค่องไผเห็นก็อยากแยง ยามมื้อแลงไผก็อยากพ้อหน้า ถ้วนระดูฟ้าสังขารปีใหม่มาแล้ว เถิงเดือนสามดอกฮังฮี่ เถิงเดือนสี่ดอกฮังบาน ตระการงามช้อยโชติ มีทังดอกแก้วโกฏิยางหลวง มีทังดอกจวงจันทร์สะพู่ มีทังดอกหมู่สารภีจำปาปีกัณณิกาก้านเกษ ดอกยางเทศพร้อมอาฮวน ดอกลำดวนทังดอกแก้ว บานบ่แล้วทังดอกสามปี บานมีสีเม็งมาต สะพานพร้อมนานา แม่เจ้าจึงชวนสาวฮามมาฮวดฮ้อย ฝูงสาวบ่าวส่ำน้อยเขาเล่นอยู่แซว ๆ แล้วจึงยายเป็นแถวเป็นถ่อง เอามาใส่ขันกระหย่องสู่ขวัญเจ้าชายหนู่มน้อย (ถ้าเป็นหญิง ญิงหนุ่มน้อย) ทังเสื้อผ้าลายพอกพ้อย แม่เจ้าห่มเอาขวัญ เอหิ ตาตะ ปิยะ ปุตตะ (ผู้หญิง เอหิอัมมะ ปียา ธีตา) อาคัจฉาปิ เจ้าจงมาอยู่ดีในบุรีแลปราสาท เป็นเจ้าอาจพันปี ความชั่วหนีคลาดแคล้วหายโศกแล้วเทียระฆา ความเจ็บตาแลปวดท้อง โพยพยาธิต้องอย่าให้มี จงให้นอนหลับดีอยู่ในห้องประเทศท้องที่นอนตน เฮือนมงคลหลังใหญ่ พอแหล่งช้างพังพลาย จงให้สุขสบายเท่าเฒ่า ตราบต่อเท่าเถิงพันปี สมบัติมีบ่ไฮ้ ให้ได้เป็นเจ้าพญา พ่อซิหาคู่มาให้ชมช้อน เจ้าอย่าฮ้อนในใจ สมบัติไหลลั่งเข้าให้เจ้ามีเฮือนชานสมสถานใหญ่กว้าง ทังปวงญาติมาโฮมชมแชวเสียงหัวม่วน เจ้าอย่าด่วนนอนใจ ทำอันใดให้ฮีฮ่ำ หน่ำ ๆ พร้อมพิจารณ์ ศีลทานธรรมอย่าขาด ตักบาตรพร้อมจังหัน เถิงวันศิลให้ฮ่ำฮู้ ให้อุสาห์สู้ภาวนา จัตตโร ธัมมนา วุฒิธรรม 4 ประการคือ อายุ วัณโณ สุขัง พลัง อายุโสดยืนยาว วัณณะพราวผิวผ่อง สีเนื้อค่องเหลือหลาย สุขสบายบ่เศร้า พละเข้าและกำลังแฮง ความแข็งแรงอย่าแก่เฒ่า ตราบต่อเท่าชีวา พรรณนาเฮืองฮอดญาณยอดแก้วติติกขา อโรคยาเฮียงฮาบ ผาบแพ้หมู่มารมาขอให้มียศถาศักดาล้ำเลิศ สมบัติเกิดอนันตัง สักโกสักกายังองอาจ อย่าคลาดแคล้วกงศรี จงให้อยู่ศรีสวัสดีเถิงเฒ่าก็ข้าเทอญ”

หมายเหตุ : บทสู่ขวัญอาจไม่ตรงกับเสียงที่หมอพราหมณ์สวด อาจเปลี่ยนไปตามลีลาของหมอพราหมณ์แต่ละคน