เสียงและบทสวดสู่ขวัญข้าว โดย นายสมัย วงษา

“ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี ศรีศรีปีนี้แม่นปีเฮ้า ปู่พระเจ้าให้ข้อยคูณขวัญ ก็ว่าดีมื้อนี้วันนี้ หมอสร้างไฮ่ได้ข้าวฮวงหนาก็ว่าดีมื้อนี้วันนี้ หมอสร้างนาได้ข้าวฮวงก้อน ก็ว่าดีมื้อนี้วันนี้ เอาบ่าวเข้าเฮียงสาวก็ว่าดีมื้อนี้วันนี้ ฟันตาวให้แผ่ก็ว่าแม่นมื้อนี้วันนี้ เอาช้างเข้ามาโฮงก็ว่าดีมื้อนี้วันนี้ ท้าวบุญเฮืองขึ้นปราสาทก็ว่าดีมื้อนี้วันนี้ ผู้ฉลาดเข้ามาฟังธรรมก็ว่าดีมื้อนี้วันนี้ ลูกไพร่เข้ามาเบิกบายศรีก็ว่าดีมื้อนี้วันนี้ เศรษฐีเบิกเงินคำก็ว่าดีมื้อนี้วันนี้ ศรีศรีมื้อนี้แม่นมื้อดี ศรีศรีมื้อนี้แม่นมื้ออุตตมะโชค โตกขุใบนี้แม่นโตกไม้จันทน์ ขันใบนี้แม่นขันไม้แก้ว ขุนนางดาแต่งแล้วจึงยอมา ชยตุภวังค์ ชยมังคลา

โอกาส ๆ เถิงระดูเดือนห้า ฟ้าฮ้องเดือนหก ฝนตกฟ้าฮ้องฮ่ำ ฝูงหมู่ทาสาฝูงชาวนา จึงหาพร้าแลขวานดาบคมบางเข่นใหม่ แบกไปใส่ป่าไม้ไพรหนา ฟันพะเนียงไถ ตัดกกสีนปลาย ฮวยเปลือกเสียเอาแต่แก่น แม่นแล้วจึงแบกออกมาเถิงเคหาไว้ใต้ล่าง ฝูงหมู่ช่างเขาจึงมาดู ปุนสิ่วฮูเข้าฮาก มีทังงอนไถใหญ่พะเนียงหา แบกไปนาไฮ่แฮก มีทังแอกอันงอ พาดคอควายเข้าฮ่องเชือก ไถค่องเพื่อควายแฮง ถืกดินแข็งเพื่อฮากไม้ ไถลวดไว้หลายวัน คราดยายไปทั่วไฮ่ ว่านเข้าใส่ในตม พระบมตกแต่ง ฮากออกแบ่งเป็นใบ พร้อมกันไปหลกออก มาตอกมากิ้ว มีดปาดลิ้วใบเสีย เขาจึงเอาไปตั้งประสุมชุมนุมเหลือหลายเดียรดาษ คราดแล้วหากล้ามาดำ ปักใส่ตมใส่พงก็จึงได้หลายต้น ดำหไนหน้าหนหลังไปมาตามภาษาไทนาแลไทนอก ดำขอบแลดำกลาง ดำเหิงนานก็จึงได้หลายต้น เถิงหลายเดือนก็จึงป่งแล้วก็จึงทรงใบวี่ ลมพัดไปอยู่ชีชั่ว ๆ ฝูงเด็กน้อยจึงไปไล่นกจิบนกจาบ อย่าให้มากินนอกกินขอกแลกินกลาง หมู่กวางฟานอย่าให้มากินใกล้ เถิงเดือนสิบสองจึงเหลืองกกเหี่ยว เข้าเกี่ยวแล้วตากไว้ซู่ไฮ่ซู่คัน เถิงสองสามวันจึงกู้ แล้วคันหลาวแก้วหาบใส่ไว้ในลาน กองกันขึ้นเหมือนดังกองธาตุ ฮอดมื้ออาดแล้วแลวันดี เขาจิ่งม้างเจ้าลงมา ค้อนสั้นเขาจักตี ค้อนฮีเขาจักฟาด เขาจึงเอาเจ้าตั้งไว้ในลานสะพาส เดียรดาษเหลือหลาย เขาจึงเอาควายมาเหยียบย่ำยี ผงธุลีกั้วไง่ เวียนเบื้องขวาคีคว้าง มือเบื้องซ้ายถือเชือกควาย มือเบื้องขวาถือขอตีต่อยตีค่อยแลตีแฮงตีปัก ๆ แลแป๊ก ๆ ตีแหลกแล้วจึงเอาควายออก เขาจึงบอกว่าเฒ่านี้ เป็นเฒ่าไฮ่แลพ่อนา จึงไปหาหนามคอมแลหนามไผ่มากวาดก่วยเฟืองเสียแล้ว จึงบอกเมียแก่นแก้วอันอยู่ในเฮือนให้หาเหล้าเต้าตองยาหาลุงตาแลพีน้อง เอาไส่ก้องกองขึ้นให้เป็นกอง แล้วจึงไปขวนขวายคิลาน์และเหมี้ยงหมาก มีทั้งตองอ่อนแลตองเขียวมียอดคูณยอดยอเขียวอ่อน มีทั้งกะจวนจันทร์คู่หอมงามตามภาษาของโลก มีทั้งไก่ผู้โอกบรบวร สาดสมควรปูลาด มีทั้งขอคีอาจคันหลาวปลายแหลมยาวซากลาก มีทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ขาวดี มีทั้งเทียนทองสีติดใต้ มีทั้งฝ้าอ่อนไท้มงคลบุงสี่หน่วยตั้งไว้สอยวอยเดียรดาษ ขีนไขว่ข้วงเหลือตาแหลว หน้างัวปักไว้สี่แจเล้า ดูเฮืองงามองอาจ จึงไปอาราธนาอาจารย์ผู้ฉลาด มานั่งสูตรคูณขวัญว่า

ศรีศรีมื้อนี้แม่นมื้อหมั้นให้เจ้าหมั้นปานหินผาแอ่น ให้เจ้าแก่นปานแท่นพระจวงพระจันทร์ ให้เจ้าหมั้นปานสันเขาไกรลาส ให้เจ้าหมั้นปานอากาศสูนตะวัน ว่ามาเยอขวัญเอย

นางข้าวเจ้าข้าวเหนียวก็ให้มามื้อนี้วันนี้ ต้นเขียว ๆ ข้าวก่ำ ต้นต่ำ ๆ ข้าวหมากเขือ ก็ให้มาเสียมื้อนี้วันนี้ ฮวงเผือข้าวป้องแอ้วแลข้าวแข้วงูสะพู่พร้อมปัดหนี ฮวงฮีข้าวอั้วน้อยข้าวขี้ควาย เม็ดสวย ข้าวฮวงช้าง เม็ดขวางข้าวลวดเทียน ลายเวียนนั้นข้าวหมาแง่ง เขาจึงแบ่งไว้ให้หมู่ไทไกล ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้ เอาแต่ข้าวกะเชิงฮวงมุ่ย อุ่ยฮุ่ยนั้นแม่นข้าวดอแดง เม็ดแดงนั้นข้าวเลือดแฮด เม็ดแจบนั่นแม่นข้าวเหนียงเป็ด เม็ดถี่นั้นแม่นข้าวหมากกอก เม็ดนอกข้าวมันหอม กินนัวแม่นข้าวปาด สะพาสพร้อมข้าวหมากโพ หอมพาโลข้าวงวงช้างเต็มไฮ่ ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย

ให้เจ้ามาจากปากมั่งตัวลาย ให้เจ้ามาจากปากควายเขาง้อง ให้เจ้ามาจากปากช้างตัวงาโงง ให้เจ้ามาจากปากกวางและกระต่าย ให้เจ้ามาจากปากช้างพลายลายวรรณ ให้เจ้ามาจากปากหมูชังแลปูคาบ ให้เจ้ามาจากปากนกจิบแลนกจาบคาบเข้าคั่วบินหนีไป ให้เจ้ามาจากปากนกเขาเคียนคาบไปจับเฮียวและปลายพุ่ม ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้ ให้เจ้ามาเต็มเยียแลเต็มเล้า ให้เจ้าอยู่สวัสดีกินสิบปีอย่าได้บก จกสิบปีอย่าได้ลง มาเยอขวัญเอย

ให้เจ้ามาจากปากมั่งตัวคอแดง ให้เจ้ามาจากปากแมงแคงตัวปีกอ้า กะซ้าขาดกระบุงแคง คันหลาวแทงหักคาบ่า ขวัญเจ้าอย่าตกใจเดอนางเนอ อี่ตองถุงเขาลักแกว่ง ต้นอ้อยลำท่อขาก้ได้มานี้แล้ว อ้อยปาลำท่อแข้งก็ได้มานี้แล้ว ต้นข้าวแข่งใส่พาขวัญก็ได้มานี่แล้ว มีทังพลูพันแหมากอ่อน มีทังกระจวนคู้หอมงามตามภาษาของโลก มีทังไก่ผู้โอกตัวท่อนกยูงแลห่าน บินผ่านฟ้ากางกี้แหลวมัน มีทังเผือกหัวซันมันหัวซ้อง พี่น้องแวนหลายตายายแวนมาก มาเยอขวัญเอย

มาอยู่เล้าพื้นแผ่นชะนอนเพียง เพิ่นตักเจ้าไปตำอย่าหัก สักกะลันเจ้าอย่าได้ฟ้งเทใส่ด้งเจ้าอย่าฟ้งบินหนี ดังพันสาดให้เจ้ากวดกันมาเหมือนเกล้าสาวหนุ่ม ให้ต้อนกันให้เจ้าดึงกันมาเหมือนดังต่อนเงินเลียง เม็ดหนึ่งตักไปทานทุกค่ำเช้าเหลือหลาย เม็ดหนึ่งตักไปซื้อควายตัวเข้าซ้อง เม็ดหนึ่งตักไปซื้อฆ้องเก้ากำ เม็ดหนึ่งตักไปซื้อคำให้ได้เก้าหมื่น เม็ดหนึ่งตักไปซื้อข้าวให้ได้ข้าวหมื่นนาเยีย เม็ดหนึ่งตักไปสู่เมียให้ได้เมียมาอยู่เฮือนขายข้าว เม็ดหนึ่งตักไปเอาผู้เฒ่าให้เล่าขายของ มาเยอขวัญเอย

เพิ่นตักใส่ด้งอย่าได้บินหนีให้เจ้ามาเลี้ยงชีวิตอินทรีย์ทั้งโลกบริโภค เลี้ยงพระพุทธศาสนาทุกค่ำเช้า ตราบต่อเท่าห้าพันพระวัสสาก็ข้าเทอญ”

หมายเหตุ : บทสู่ขวัญอาจไม่ตรงกับเสียงที่หมอพราหมณ์สวด อาจเปลี่ยนไปตามลีลาของหมอพราหมณ์แต่ละคน