ไข่มดแดง อาหารอีสานโปรตีนสูง

“ไข่มดแดง” หนึ่งในของขวัญจากธรรมชาติที่แฝงไว้ด้วยคุณค่าทางอาหารและวัฒนธรรมการกินของชาวอีสานมาเนิ่นนาน เป็นแหล่งโปรตีนธรรมชาติที่ชุมชนอีสานรู้จัก พึ่งพา และผูกพันอย่างแน่นแฟ้น อาหารพื้นถิ่นชนิดนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างรู้คุณค่า และภูมิปัญญาการปรับตัวให้เข้ากับฤดูกาล เรียกได้ว่าภาคอีสานนั้นเป็นแหล่งกำเนิดรากฐานและวัฒนธรรมการกินไข่มดแดงที่โดดเด่นและสืบทอดมายาวนาน

เมื่อฤดูร้อนมาเยือน ป่าโปร่งและสวนไร่นาในอีสานจะคึกคักไปด้วยการเสาะหาไข่มดแดงจากรังที่ซุกซ่อนอยู่บนกิ่งไม้สูง มดแดงจะเริ่มวางไข่และฟักตัวอ่อนในช่วงนี้ ทำให้เป็นเวลาทองของการเก็บเกี่ยว ด้วยรูปร่างกลมขาวนวล เนื้อสัมผัสนุ่มลื่น และรสชาติเปรี้ยวอมมันเฉพาะตัว ไข่มดแดงจึงเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศที่นำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นแกงผักหวานไข่มดแดง ไข่เจียวไข่มดแดง หรือก้อยไข่มดแดง ล้วนเป็นอาหารที่สร้างความประทับใจและได้รับความนิยม

นอกจากจะเป็นอาหารเลิศรสแล้ว ไข่มดแดงยังอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย ส่งผลให้เป็นที่นิยมทั้งในระดับท้องถิ่นและขยายสู่วงกว้างในระดับประเทศและต่างประเทศ จนก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากมาย ทั้งการเก็บขาย การแปรรูป และการจำหน่ายในรูปแบบผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน

สัณฐานวิทยาของมดแดง

มดแดง

มดแดง (Oecophylla smaragdina Fabricius, 1775) เป็นมดชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มดแดงมีพฤติกรรมสร้างรังบนต้นไม้โดยใช้ใบไม้ที่ชักใยให้ติดกันเป็นรังขนาดใหญ่ ภายในรังหนึ่งรังจะประกอบไปด้วยมดหลากหลายวรรณะ ซึ่งแต่ละวรรณะมีลักษณะสัณฐานเฉพาะและทำหน้าที่แตกต่างกัน ดังนี้:

  • มดพยาบาล (Nurse ants): มดวรรณะนี้ทำหน้าที่ดูแลไข่ ตัวอ่อน และดักแด้ภายในรัง มีขนาดลำตัวเล็กกว่ามดงานทั่วไป ไม่เติบโตขึ้นอีกหลังฟักตัวจากดักแด้ เนื่องจากไม่ได้ออกไปหาอาหารหรือป้องกันรัง ทำให้มดพยาบาลมักอาศัยอยู่ภายในรังเท่านั้น
  • มดงาน (Worker ants): เป็นมดที่พบได้มากที่สุดในรัง มีขนาดใหญ่กว่ามดพยาบาล ทำหน้าที่สำคัญหลายประการ เช่น ออกหาอาหาร ป้องกันอาณาเขต และดูแลรัง มดงานมีแรงกัดที่แข็งแรงแต่ไม่สามารถผลิตใยได้
  • มดตัวผู้ (Male ants): มดเพศผู้มีลักษณะเด่นคือ มีปีกสีดำ หน้าที่หลักคือการผสมพันธุ์กับนางพญาในช่วงฤดูผสมพันธุ์ หลังจากผสมพันธุ์เสร็จแล้ว มดตัวผู้จะหมดหน้าที่และตายในเวลาอันสั้น
  • นางพญา หรือ แม่เป้ง (Queen ant): เป็นมดเพศเมียที่มีบทบาทในการสืบพันธุ์ มีขนาดลำตัวใหญ่กว่าวรรณะอื่น เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ นางพญาจะบินออกจากรังเพื่อจับคู่กับมดตัวผู้ หลังจากนั้นจะสลัดปีกและเริ่มสร้างรังใหม่เพียงลำพัง การผสมพันธุ์จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตของนางพญา ซึ่งสามารถเก็บรักษาน้ำเชื้อไว้ได้ตลอดชีวิตเพื่อใช้ในการวางไข่

สัณฐานวิทยาของไข่มดแดง

ไข่มดแดงที่นิยมนำมาบริโภคมีทั้งไข่ ตัวอ่อน และดักแด้ โดยมีลักษณะภายนอกเป็นเม็ดขนาดเล็กถึงใหญ่ สีขาวนวลไปจนถึงชมพูอ่อน ผิวเรียบเนียน มันวาว และมีลักษณะเต่งตึง โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูที่รังเริ่มผลิตไข่ใหม่ ตัวอ่อนที่ได้จะอวบแน่นเป็นพิเศษ รสชาตินุ่มนวล มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และถือว่าเป็นช่วงที่ไข่มดแดงมีคุณภาพดีที่สุด

ความแตกต่างของไข่มดแดงมาจากวรรณะของมดที่มันจะเจริญเติบโตไปเป็น ซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้:

  • ไข่ของมดเจ้าหญิง (Princess ants): เป็นไข่ที่กำลังเจริญเติบโตไปเป็นมดสืบพันธุ์เพศเมีย หรือที่เรียกกันว่า “มดเจ้าหญิง” ซึ่งภายหลังจะกลายเป็นนางพญา ไข่ประเภทนี้มีขนาดใหญ่ รูปร่างกลมรี สีขาวอมชมพู และถือเป็นไข่มดแดงชนิดที่อร่อยและเป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากให้เนื้อสัมผัสที่ดีและคุณค่าทางโภชนาการสูง ไข่ชนิดนี้จะออกมาเป็นช่วง ๆ ตามฤดูเท่านั้น
  • ดักแด้ของมดงานและมดตัวผู้: มีขนาดเล็กกว่ามาก โดยเฉลี่ยประมาณ 5 มิลลิเมตร รูปร่างเรียวยาวและเบา แม้ไม่เป็นที่นิยมเท่ามดเจ้าหญิง แต่ก็สามารถบริโภคได้ในรูปแบบผสมรวมกับไข่ประเภทอื่น
ไข่มดแดง
ดักแด้ของมดงานและมดตัวผู้
  • ตัวอ่อนของนางพญาหรือแม่เป้ง: มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาไข่มดแดง โดยมีขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ชาวอีสานจะเรียกว่า “แม่เป้ง” ขณะที่ชาวภาคเหนือจะเรียกว่า “เต้ง” ตัวอ่อนประเภทนี้ให้เนื้อสัมผัสแน่น หนัก และเป็นที่ต้องการในตลาด โดยเฉพาะเมื่อนำไปปรุงอาหารพื้นบ้าน เช่น แกงผักหวาน หรือไข่เจียวไข่มดแดง

ที่อยู่อาศัยหรือรังของมดแดงมักปรากฏอยู่ในพื้นที่ที่มีเรือนยอดไม้แผ่กว้างและเปิดโล่ง ไม่เจาะจงชนิดของพืชมากนัก แต่เลือกปลายกิ่งไม้เป็นสถานที่โปรดในการก่อสร้าง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของมดแดงที่ต้องการพื้นที่รับแสงและอากาศถ่ายเทสะดวก

พันธุ์ไม้ยอดนิยมในการสร้างรัง จากการสำรวจพบว่า มะม่วง เป็นพันธุ์ไม้ที่มดแดงนิยมใช้สร้างรังมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 17.42% รองลงมาคือ ยางนา, มะฮอกกานี, หว้า, แดง และสะเดา นอกจากนั้นยังสามารถพบรังมดแดงในพืชชนิดอื่น เช่น กระถินเทพา, โกโก้, ขนุน, ขี้เหล็ก, คูน, น้อยหน่า, ประดู่บ้าน, พะยูง, มะนาว และแม้แต่ในไม้เลื้อยเนื้อแข็งอย่าง น้ำใจใคร่ ก็ยังมีร่องรอยของรังมดแดงปรากฏอยู่

ใบไม้ที่มดแดงเลือกใช้ต้องมีลักษณะเฉพาะ ได้แก่ ใบกว้าง ผิวเรียบเป็นมัน ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ไม่มีขน (ยกเว้นบางชนิด เช่น ยางนา) ไม่ผลัดใบง่าย ขนาดใบใหญ่ เรียวยาว และมีอายุการใช้งานนาน พืชที่มีลักษณะใบตามเกณฑ์นี้มักจะพบรังมดแดงที่มีขนาดใหญ่และมั่นคงมากกว่า

ขนาดและจำนวนของรังในต้นไม้แต่ละต้น สามารถพบรังมดแดงได้ตั้งแต่ 1 รังไปจนถึง 12 รัง โดยมีขนาดแตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมของตำแหน่งกิ่งและขนาดของใบ รังเล็กสุดมีขนาดประมาณ 9.4 x 12.2 เซนติเมตร ส่วนรังขนาดใหญ่สามารถมีขนาดใหญ่ถึง 24.8 x 31.5 เซนติเมตร

การเก็บไข่มดแดง

การเก็บไข่มดแดงสะท้อนภูมิปัญญาชาวบ้านในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ด้วยความรู้ ประสบการณ์ และเทคนิคที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น การเก็บเกี่ยวไข่มดแดงจึงมีจังหวะเวลาและวิธีการที่ต้องอาศัยความชำนาญและความเคารพต่อสิ่งแวดล้อม ฤดูเก็บไข่มดแดงอยู่ในช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงประมาณเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มดแดงขยายรังและเริ่มผลิตไข่ ตัวอ่อน และดักแด้ในปริมาณมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ไข่จะมีลักษณะอวบแน่น ขาวสะอาด และให้รสชาติที่ดีที่สุด หากล่าช้าไปกว่านี้ ไข่บางส่วนจะพัฒนาเป็นมดเต็มวัยที่มีปีก เรียกว่า “แม่ปีก” ซึ่งไม่นิยมนำมารับประทาน

ชาวบ้านในภาคอีสานมักเดินสำรวจหาไข่มดแดงตามทุ่งนา ป่าโปร่ง หรือริมแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยอาศัยประสบการณ์ในการสังเกตร่องรอยของรังที่ห้อยอยู่ตามกิ่งไม้ รังที่มีไข่มักมีขนาดใหญ่ ทึบแน่น และมีฝ้าขาวขึ้นตามขอบรัง นอกจากนี้ บางคนยังสามารถดมกลิ่นเฉพาะของรังที่มีไข่ได้อย่างแม่นยำ

เทคนิคการเก็บไข่มดแดงแบบดั้งเดิม

  • การแหย่รัง: จะใช้ไม้ไผ่ยาวผูกกระบุงหรือตะกร้าไว้ที่ปลาย เพื่อนำไปแหย่รังมดแดงให้ตกลงมาทั้งรัง เทคนิคนี้ช่วยหลีกเลี่ยงการปีนต้นไม้และเพิ่มความปลอดภัยในการเก็บ
  • การไล่มดโดยไม่ให้ไข่เสียหาย: เพื่อป้องกันไม่ให้มดคาบไข่หนี ชาวบ้านจะโรยแป้งมันสำปะหลัง บริเวณปากตะกร้าหรือรอบรัง เพื่อให้มดเดินลื่นและหนีออกจากไข่ อีกวิธีหนึ่งคือ การใช้ขี้เถ้าแห้งปัดไล่มด เนื่องจากขี้เถ้ามีคุณสมบัติทำให้มดหลุดจากผิวไข่โดยไม่ทำให้ไข่เสียหาย
  • การป้องกันตนเอง: เนื่องจากมดแดงมีพฤติกรรมก้าวร้าวและมีแรงกัดที่เจ็บแสบ ผู้เก็บต้องสวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด และเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ผ้าคลุมแขน ถุงมือ หรือหมวก หากถูกกัดจะรู้สึกแสบร้อนและบวมเล็กน้อย

เมื่อเก็บไข่มดแดงได้แล้วจะต้องคัดแยกไข่ออกจากใบไม้และเศษรัง จากนั้นล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้ไข่มดแดงที่สะอาดพร้อมนำไปประกอบอาหารหรือจำหน่ายในตลาด

คุณค่าทางโภชนาการของไข่มดแดง

ไข่มดแดงมิได้มีดีเพียงรสชาติอร่อยและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์เท่านั้น หากยังเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่น่าทึ่งจนได้รับการยอมรับว่าเป็น “แหล่งโปรตีนคุณภาพสูงจากธรรมชาติ” ที่ชาวอีสานรู้จักและบริโภคมาอย่างยาวนาน

ในไข่มดแดงปริมาณ 100 กรัม หรือประมาณ 6 ช้อนกินข้าว ให้โปรตีนสูงถึง 8.2 กรัม ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการพื้นฐานของร่างกายในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สร้างกล้ามเนื้อ และสนับสนุนการเจริญเติบโต โดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่ต้องการโปรตีนจากแหล่งอาหารทางเลือก

นอกจากให้โปรตีนสูงแล้ว ไข่มดแดงยังมีไขมันเพียง 2.6 กรัม และให้พลังงานเพียง 86 กิโลแคลอรี ต่อ 100 กรัม ซึ่งนับว่าเป็นอาหารพลังงานต่ำเมื่อเทียบกับไข่ไก่ที่มีไขมัน 11.7 กรัม และให้พลังงานถึง 155 กิโลแคลอรีในปริมาณเท่ากัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือเลือกบริโภคไขมันน้อย

ไข่มดแดงยังเป็นแหล่งของธาตุเหล็กที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงและการลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยในปริมาณเท่ากัน ไข่มดแดงให้ธาตุเหล็กในปริมาณมากกว่าไข่ไก่ จึงเหมาะกับผู้ที่มีภาวะโลหิตจางหรือเสี่ยงขาดธาตุเหล็ก

ภายในเม็ดไข่เล็ก ๆ เหล่านี้ ยังมีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ เช่น ไลซีน เมไทโอนีน และวาลีน รวมถึงแร่ธาตุหลากชนิดที่มีบทบาทในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน กระดูก และระบบประสาท

นอกจากไข่แล้ว ตัวมดแดงเองยังมีกรดธรรมชาติที่เรียกว่า “กรดน้ำส้ม” ซึ่งให้รสเปรี้ยวเฉพาะตัว จึงนิยมใช้แทนมะนาวหรือน้ำส้มสายชูในอาหารพื้นถิ่นบางชนิด เช่น ต้มปลา ก้อยปลา ทั้งยังช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมในอาหารอย่างเป็นธรรมชาติ

ต้มปลาใส่มดแดง
ต้มปลาใส่มดแดง
ก้อยปลาใส่ไข่มดแดง
ก้อยปลาใส่ไข่มดแดง

เมนูอาหารอีสานจากไข่มดแดง

ในแง่ของการประกอบอาหาร ชาวอีสานได้นำไข่มดแดงไปปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู โดยมีรสชาติหวานมันนุ่มลิ้น พร้อมรสเปรี้ยวเฉพาะตัวที่เพิ่มความซับซ้อนให้อาหารแต่ละจาน ซึ่งเมนูที่นิยมกันมาก ได้แก่

  • แกงผักหวานไข่มดแดง ที่มักใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลอย่างผักหวานป่าร่วมกับไข่มดแดง สะท้อนความกลมกลืนของธรรมชาติทั้งรสชาติและช่วงเวลาเก็บเกี่ยว มีวิธีการทำง่าย ๆ คือ ต้มน้ำให้เดือดให้ใส่หอมแดงทุบ และพริกสดลงไป เติมปลาร้า ใส่ปลาแห้งที่ย่างหรือคั่วไว้แล้วลงไปในหม้อ ต้มจนปลาแห้งนุ่มและปล่อยรสชาติออกมาในน้ำแกง ใส่ผักหวาน ใส่ไข่มดแดง อาจจะปรุงเพิ่มด้วยน้ำปลา เกลือ หรือปลาร้า ให้กลมกล่อมตามชอบ หากชอบเปรี้ยวอาจเติมน้ำมะขามเปียกเล็กน้อย (หรือไม่ใส่เลยก็ได้)
  • ก้อยไข่มดแดง ที่เน้นความจัดจ้านของรสเปรี้ยว เผ็ด และเค็ม ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัว เริ่มด้วยการล้างไข่มดแดงให้สะอาด แล้วนำมาคลุกกับเครื่องยำ เช่น พริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย น้ำปลา น้ำมะนาว (หรือน้ำมดแดง) และต้นหอมผักชี คลุกเคล้าให้เข้ากัน กินเป็นกับแกล้ม หรือกินกับข้าวเหนียว
ก้อยไข่มดแดง
ก้อยไข่มดแดง
  • ไข่เจียวไข่มดแดง ที่ทำง่ายแต่ได้รสกลมกล่อม โดยผสมไข่มดแดงกับไข่ไก่ ปรุงรสแล้วเจียวจนหอม โรยพริกไทยดำและกระเทียมเจียวเพิ่มความหอม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ
  • ต้มยำปลาช่อนไข่มดแดง เมนูยอดนิยมอีกเมนู มีวิธีการคือ ต้มปลาช่อนกับตะไคร้ ใบมะกรูด และข่า เติมน้ำปลาร้า พริกสดตำ แล้วใส่ไข่มดแดงตอนท้าย ก่อนปิดไฟ ปรุงรสให้เปรี้ยวด้วยน้ำมะนาวหรือน้ำจากตัวมดแดง
  • ห่อหมกไข่มดแดง ล้างไข่มดแดงผสมกับหอมแดง ใบแมงลัก และปรุงรสด้วยเกลือ ห่อด้วยใบตองแล้วนำไปย่างไฟให้สุกหอม
หมกไข่มดแดง
หมกไข่มดแดง
  • อู๋ไข่มดแดง (อ๋อ) มีวิธีการทำคล้ายอ่อมแต่ใส่น้ำน้อย ใช้ไข่มดแดง พริก หอมแดง และใบแมงลัก เคี่ยวจนงวด มีกลิ่นหอมของสมุนไพร
    ในปัจจุบัน ไข่มดแดงยังถูกแปรรูปเพื่อให้สามารถบริโภคได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น ไข่มดแดงในน้ำเกลือ หรือ แม่เป้งคั่วเกลือ ซึ่งกลายเป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว ของจังหวัดยโสธร และเป็นที่รู้จักในระดับประเทศ

ข้อควรระวังในการเตรียมไข่มดแดง ก่อนนำมาปรุงอาหาร ควรล้างให้สะอาดอย่างน้อย 3 ครั้ง หรือเปิดน้ำไหลผ่านประมาณ 2 นาที อาจแช่ในน้ำเกลือ น้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดา จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ที่สำคัญคือควรปรุงให้สุกเสมอ หลีกเลี่ยงการกินดิบ เพราะอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน โดยเฉพาะเมนูประเภทยำ

ไม่ควรเก็บค้างคืน เพราะจะเสียได้ง่ายและทำให้เสี่ยงต่ออาการปวดท้องหรือโรคทางเดินอาหาร

การเพาะเลี้ยงไข่มดแดงเชิงพาณิชย์

จากภูมิปัญญาชาวบ้านที่สังเกตเห็นว่า มดแดงมักสร้างรังตามขวดพลาสติกหรือท่อ PVC ร้าง กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกษตรกรหลายรายหันมาศึกษาและทดลอง “เพาะเลี้ยงมดแดง” อย่างจริงจัง เพื่อเก็บไข่มดแดงไว้บริโภคและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสร้างรายได้ที่น่าสนใจและมีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต

แนวทางการเลี้ยงมดแดงในรูปแบบ “คอนโดไข่มดแดง” เริ่มต้นจากการสร้างรังเทียมด้วยวัสดุหาง่าย เช่น ขวดพลาสติกใส หรือกล่องอะคริลิกทรงสูง โดยเจาะรูระบายอากาศรอบภาชนะเพื่อให้มดอยู่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เชือกหรือทางเดินจะถูกขึงเชื่อมต่อระหว่างรังเดิมในธรรมชาติกับรังเทียม เพื่อเปิดโอกาสให้มดแดงเดินทางและค่อย ๆ ย้ายเข้ามาอยู่อาศัย อาหารที่ใช้ล่อมดมีทั้งแมลงอบแห้ง ข้าวคลุกปลาทูผสมนมผงเด็ก รวมถึงน้ำหวานอย่างน้ำแดงหรือน้ำชูกำลังที่มดชอบ นอกจากนี้มดยังสามารถกินแมลงตัวเล็ก ๆ และไข่ขาวเป็นอาหารเสริมได้ด้วย

เพื่อกระตุ้นให้มดแดงออกไข่แม้ในฤดูที่ไม่ใช่ฤดูฝน เกษตรกรจะใช้น้ำฉีดพ่นต้นไม้หรือเปิดสปริงเกอร์ในช่วงเย็น เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมเหมือนหน้าฝน โดยเฉพาะในฤดูร้อนหรือฤดูหนาวอย่างเดือนมีนาคม การเปิดไฟล่อแมลงในยามค่ำคืนก็ช่วยเพิ่มอาหารธรรมชาติให้รังได้อีกทางหนึ่ง

การเลี้ยงมดแดงนั้นใช้ต้นทุนต่ำแต่กลับให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูที่ไข่มดแดงมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 900 บาท และเฉลี่ยอยู่ที่ 700 บาท/กิโลกรัม ตลอดฤดูกาล ซึ่งสูงกว่าเนื้อสัตว์ทั่วไปหลายเท่าตัว เกษตรกรที่จัดการดีสามารถมีรายได้วันละเกือบ 2,000 บาท หรือกว่า 20,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว ไข่มดแดงที่เก็บได้ ยังสามารถแปรรูปเป็นสินค้าสำเร็จรูป เช่น ไข่มดแดงในน้ำเกลือกระป๋อง หรือ แม่เป้งคั่วเกลือ เพื่อวางจำหน่ายได้ตลอดปี ช่วยลดการพึ่งพาฤดูกาล และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตได้อย่างยั่งยืน

บรรณานุกรม

เกษตรสัญจร. (2567). เลี้ยงมดแดงขายไข่ ราคาดี ลงทุนน้อย สร้างรายได้ตลอดปี. เข้าถึงเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568, https://youtu.be/ZcbIoeKHphw?si=Ys0Hlxb5orVee-VB

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23. (2568.). [Sustainable] เก็บ “ไข่มดแดง” กำไรวันละ 2,000 บ. เข้าถึงเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568, https://youtu.be/H_D7B7SC5dk?si=d_77bAHAOXqTZCMq

จิราภพ ทวีสูงส่ง. (2568). วิทย์ – ภูมิปัญญาซ่อนอยู่ ! “ไข่มดแดง” อาหารชั้นสูงห้วงสุริยฤดู. Thai PBS NOW. https://www.thaipbs.or.th/now/content/2417

นันทิญา มณีโชติ, ชวนพิศ จารัตน์, วัจนารัตน์ ควรดี, นิชาภา เฉตระการ, ฐิตาภรณ์ นิลวรรณ และยุพเยาว์ โตคีรี. (2567). การเพาะเลี้ยงมดแดงในครัวเรือน กรณีศึกษาพื้นที่แปลงปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจในจังหวัดสุรินทร์. วารสารแก่นเกษตร, 52(2), 226–236. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568, https://li01.tci-thaijo.org/index.php/agkasetkaj/article/view/261141

ฟาร์มาไทม์. (2567). ชวนกิน ‘ไข่มดแดง’ โปรตีนสูง แต่ไขมัน-แคลอรีต่ำ. ฟาร์มาไทม์, 21(168), กรกฎาคม-สิงหาคม 2567, สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568, http://medi.co.th/news_detail2.php?q_id=421

สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์. (2565). ไข่มดแดง แหล่งอาหารโปรตีนของคนชนบท เก็บให้ง่าย เอาแป้งโรย ลดความเสี่ยงโดนกัด. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2568, https://www.opsmoac.go.th/amnatcharoen-local_wisdom-preview-441691791841

MGR Online. (2560). สีสันหน้าร้อน! ชาวสวนยางออกหา “ไข่มดแดง” นำขายสร้างรายได้วันละเกือบ 2 พัน. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2568, https://mgronline.com/south/detail/9600000031452

Pichika Y.. (2565). รู้จักวัฒนธรรมการกิน “อาหารอีสาน” ผ่านสายตาเชฟท้องถิ่น.สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568, https://www.gourmetandcuisine.com/stories/detail/1717

Thaipost.net. (2568). ‘ไข่มดแดง’ ช่วงต้นฤดูกาล ราคาพุ่งกก.ละ 900 บาท เหตุปีนี้ออกช้ากว่าปกติ. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568, https://www.thaipost.net/district-news/750727/

 Topic Thailand. (2568). วิถีชีวิตหาเก็บ”ไข่มดแดง” วัฒนธรรมถิ่นอีสานในทุกคำเล่า. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568, https://topicrecentthailand.com/?p=2527

 

Tag

การทอผ้าไหม การทำต้นเทียนพรรษา การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การปฏิบัติธรรม การแกะสลักเทียนพรรษา ครูภูมิปัญญาไทย บุญมหาชาติ บุญเดือนแปด ชุมชนทำเทียนพรรษา บ้านชีทวน พักผ่อนหย่อนใจ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ดนตรีพื้นบ้าน ดนตรีพื้นเมืองอีสาน ต้นเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ ต้นเทียนพรรษาประเภทแกะสลัก ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ประเพณีท้องถิ่น ประเพณีอีสาน ประเพณีแห่เทียนพรรษา วัดหนองป่าพง วิถีชีวิตคนอีสาน วิปัสสนากรรมฐาน ศิลปกรรมญวน ศิลปกรรมท้องถิ่นอีสาน ศิลปะญวน สถาปัตยกรรมท้องถิ่น สถาปัตยกรรมท้องถิ่นอีสาน สถาปัตยกรรมในพุทธศาสนา สาขาวัดหนองป่าพง สิม หัตถกรรมการทอผ้า อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอตระการพืชผล อำเภอน้ำยืน อำเภอม่วงสามสิบ อำเภอวารินชำราบ อำเภอเขมราฐ อำเภอเขื่องใน อำเภอเดชอุดม อำเภอเมืองอุบลราชธานี อุบลราชธานี อุโบสถ ฮีตสิบสอง