ลอยเรือไฟ ไต้ประทีปเทียนชัย ในบุญออกพรรษาเดือนสิบเอ็ด

ตามประเพณีฮีตสิบสองของชาวอีสานแต่โบราณ ในเดือนสิบเอ็ดจะมีงานบุญที่สำคัญคือ คือ บุญออกพรรษา ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จารีตประเพณีที่เกี่ยวข้องคือจะมีการจุดไฟไต้ประทีป หรือการจุดเทียน ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจุดประทีปเทียนชัยที่บ้าน ในหอประทีปที่วัด การลอยเรือไฟ การไหลเรือไฟ การแห่ปราสาทผึ้ง เป็นต้น

ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา ซึ่งมีความสำคัญกับพุทธศาสนิกชน คือ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ หลังจากเสด็จขึ้นไปจำพรรษาเพื่อการตรัสอภิธรรมเทศนาโปรดพระมารดาในเทวโลกบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ถ้วนไตรมาสหรือสามเดือน เมื่อออกพรรษาแล้วก็เสด็จมายังโลกมนุษย์ทางบันไดสวรรค์ที่ประตูเมืองสังกัสสะ แคว้นปัญจาละ (รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย) วันที่เสด็จลงจากเทวโลกนั้นเรียกกันว่า “วันเทโวโรหณะ” ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือ วันพระเจ้าเปิดโลก หมายถึง โลกธาตุทั้ง 3 คือ สวรรค์ มนุษย์ และนรก สามารถมองเห็นกันได้

ชาวอีสานจะมีงานบุญเดือนสิบเอ็ดหรือบุญออกพรรษาที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตามประเพณีฮีตสิบสอง คือ  โดยในช่วงเช้าพุทธศาสนิกชนจะไปทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และฟังธรรมเทศนาที่วัด ในช่วงค่ำจะนำเอาดอกไม้ธูปเทียนไปจุดถวายเป็นพุทธบูชาที่วัด โดยชาวบ้านและภิกษุสามเณรในวัดจะช่วยกันทำทำร้านหรือโรงเรือนสำหรับวางดอกไม้ธูปเทียนขึ้นมีหลายรูปแบบ เช่น ทำเป็นรูปเรือ ทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีชื่อเรียกตามแต่ละท้องถิ่นว่า ข่วงไต้ประทีป หอประทีป หอฮุ่งเฮือง หอไต้น้ำมัน เป็นต้น

ร้านหรือโรงเรือนสำหรับวางธูปเทียนที่พบเห็นได้ จะมีลักษณะเป็นโรงเรือน ขนาด 1×1 หรือ 2×2 เมตร มีเสาทั้งหมด 4, 8 หรือ 9 ต้น ทำด้วยต้นกล้วยที่ตัดใบออกให้เหลือสัก 4 ก้านเพื่อความสวยงามหรือไม่ตัดก็ได้ วางอยู่ที่มุมทั้งสี่ด้านและระหว่างต้นเสา ร้านหรือที่วางดอกไม้ทำมาจากไม้ไผ่ โดยนำมาสานขัดแตะและรองด้วยใบมะพร้าวติดเข้ากับเสาทั้ง 8 ต้นให้มีระดับความสูงประมาณ 1.5 เมตร ตัดต้นกล้วยมาวางเป็นแท่นสำหรับปักธูปเทียน และประดับตกแต่งโรงเรือนด้วยทางมะพร้าว ต้นอ้อย ธงทิว และดอกไม้ให้สวยงาม

จุดไฟไต้ประทีปออกพรรษา จุดไฟไต้ประทีปออกพรรษา

นอกจากจะจุดประทีปเทียนที่วัดแล้ว ชาวบ้านก็ยังมีการจุดประทีปเทียนถวายดอกไม้ไว้ที่บ้านด้วย ซึ่งจะทำกันในช่วงหัวค่ำเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. โดยจะนำกาบกล้วยมาทำเป็นฐานคล้ายเรือ แล้วจุดเทียนปักลงบนเรือ พร้อมประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ บางบ้านอาจจะมีการนำต้นข้าวที่กำลังตั้งท้อง (ข้าวมาน) มาตกแต่งบูชาด้วย ปัจจุบันอาจจะไม่ได้ทำเป็นเรือกล้วยแล้ว แต่จะมีการจุดเทียนไว้ตามราวรั้วหรือราวระเบียงแทน

จุดไฟไต้ประทีปออกพรรษา

ในบางพื้นที่ที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำก็จะจัดให้มีการไหลเรือไฟขึ้น มีชื่อเรียกตามแต่ละท้องที่ เช่น ล่องเรือไฟ ลอยเรือไฟ หรือปล่อยเรือไฟ โดยชาวบ้านจะรวมตัวช่วยกันทำเรือไฟขึ้น โดยใช้ต้นกล้วย ไม้ไผ่ หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้ ตกแต่งด้วยธงทิว ดอกไม้ และของไหว้ขอขมา เช่น หมาก พลู ก้อนข้าวเหนียว ข้าวต้มมัด กล้วย อ้อย รวมทั้งอาหารคาวหวานต่าง ๆ บ้างก็มีการตัดผม ตัดเล็บ ใส่กระทงนำไปวาง รวมทั้งจุดธูปเทียนปักลงไปบนเรือ จากนั้นจึงนำไปลอยในแม่น้ำ มักจะทำกันในตอนกลางคืน รูปแบบคล้ายคลึงกับประเพณีลอยกระทง ในวันเพ็ญ เดือน 12 แต่ก็พบว่ามีบางพื้นที่ที่ทำการลอยเรือไฟในเวลากลางวัน เช่น ชุมชนบ้านทุ่งใหญ่ ตำบลบ้านไทย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี

จุดไฟไต้ประทีปออกพรรษา

การลอยเรือไฟ ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นเทศกาลไหลเรือไฟที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและสร้างความโดดเด่นทางวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัดนครพนม มีการประยุกต์การทำเรือไฟให้มีขนาดใหญ่ขึ้น มีโครงสร้างที่แข็งแรง และประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟเป็นหมื่น ๆ ดวงเพื่อส่องสว่างให้เห็นลวดลาย ความสวยงาม และความคิดสร้างสรรค์ในการประดับตกแต่งเรือไฟ พบเห็นได้ในจังหวัดนครพนม อุบลราชธานี ศรีสะเกษ

จุดไฟไต้ประทีปออกพรรษา

รูปแบบการจุดไฟไต้ประทีปในช่วงวันออกพรรษา ยังพบเห็นได้อีกในงานประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง เช่น บ้านโพนทราย และ บ้านทุ่งใหญ่ ตำบลบ้านไทย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี

จากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลพบว่า ชาวอีสานมีความเชื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับการจุดไฟไต้ประทีบหรือการจุดเทียนนี้ว่า

  1. เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเฉลิมฉลองวาระที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ โดยมีความเชื่อว่า อานิสงส์แก่ผู้กระทำการถวายพุทธบูชาด้วยประทีปโคมไฟนั้น จะทำให้เป็นผู้มีตาทิพย์ รู้แจ้งและเกิดปัญญา สำเร็จเป็นพระอรหันต์
  2. เพื่อการบูชาพญานาค ซึ่งเป็นผู้ดูแลรักษาแม่น้ำ และช่วยคุ้มครองคนที่สัญจรทางน้ำให้มีความปลอดภัย
  3. เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท จากตำนานที่ว่า เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จไปโปรดเหล่าพญานาคที่ภพนาค ก่อนเสด็จกลับ เหล่าพญานาคได้ขอให้พระพุทธองค์ทรงประทับรอยพระบาทไว้สักการะ ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมทานที ประเทศอินเดีย
  4. เพื่อขอขมาต่อพระแม่คงคา ที่ใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค รวมทั้งการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำลำคลอง เป็นการบูชาน้ำบูชาไฟ
  5. เพื่อรับขวัญและบูชาพระแม่โพสกที่ประจำอยู่ในต้นข้าว แม่โพสพจะเป็นผู้คอยดูแลต้นข้าวให้เจริญงอกงาม เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเลี้ยงโลกให้อยู่เย็นเป็นสุข หากผู้ใดบูชากราบไหว้แม่โพสพแล้วจะทำให้ผู้นั้นร่ำรวยอุดมสมบูรณ์
  6. เพื่อเป็นการขอขมาลาโทษ สะเดาะเคราะห์ให้ชีวิตหมดเคราะห์หมดโศก หายจากโรคภัย สิ่งชั่วร้ายในชีวิตจงไหลไปกับสายน้ำ และมอดไหม้ไปพร้อมกับเปลวไฟ
  7. เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยเชื่อว่าบรรพชนจะได้มีปราสาทราชวังหรือบ้านเรือนอยู่อาศัย
  8. เพื่อแก้บนจากการบนบานให้หายเจ็บป่วย หรือการบนบานขอสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เมื่อหายป่วยหรือสิ่งที่บนบานไว้สำเร็จดังประสงค์ก็จะถวายปราสาทผึ้ง ซึ่งบางคนทำแล้วเห็นผลทันตา ความเจ็บป่วยหายไป จึงทำให้ความเชื่อนี้ยังคงอยู่

หมายเหตุ : รวบรวบและศึกษาข้อมูลในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี

ที่ตั้ง : จังหวัดอุบลราชธานี

พิกัดภูมิศาสตร์ : 15.230193, 104.857329

บรรณานุกรม

ทวี อภิสกุลชาติ. (2561). เปิดตำนานประเพณี “ไหลเรือไฟนครพนม” จากอดีตถึงปัจจุบัน ก่อนกลายเป็น”หนึ่งเดียวในโลก”, เข้าถึงเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562. https://www.77kaoded.com/content/190163

ธวัช ปุณโณธก. (2542). ไต้ประทีป, บุญ ในสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคอีสาน เล่ม 5. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย. หน้า 1469-1473.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์. (2561). รู้จัก “พิธีรับขวัญข้าว” ประเพณี-ความเชื่อดั้งเดิมแบบไทย ๆ ทำไมต้องรับขวัญ, เข้าถึงเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562. https://www.prachachat.net/spinoff/culture/news-203522

พิชญ์ สมพอง. (2542). ไหลเรือไฟ, บุญ ในสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคอีสาน เล่ม 15. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย. หน้า 5142-5144.

หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครพนม. ไหลเรือไฟ นครพนม, เข้าถึงเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562. http://www.finearts.go.th/nakhonphanomlibrary/parameters/km/item/ไฟเรือไฟ-นครพนม

Tag

การทอผ้าไหม การทำต้นเทียนพรรษา การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การปฏิบัติธรรม การแกะสลักเทียนพรรษา ครูภูมิปัญญาไทย บุญมหาชาติ บุญเดือนแปด ชุมชนทำเทียนพรรษา บ้านชีทวน พักผ่อนหย่อนใจ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ดนตรีพื้นบ้าน ดนตรีพื้นเมืองอีสาน ต้นเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ ต้นเทียนพรรษาประเภทแกะสลัก ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ประเพณีท้องถิ่น ประเพณีอีสาน ประเพณีแห่เทียนพรรษา วัดหนองป่าพง วิถีชีวิตคนอีสาน วิปัสสนากรรมฐาน ศิลปกรรมญวน ศิลปกรรมท้องถิ่นอีสาน ศิลปะญวน สถาปัตยกรรมท้องถิ่น สถาปัตยกรรมท้องถิ่นอีสาน สถาปัตยกรรมในพุทธศาสนา สาขาวัดหนองป่าพง สิม หัตถกรรมการทอผ้า อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอตระการพืชผล อำเภอน้ำยืน อำเภอม่วงสามสิบ อำเภอวารินชำราบ อำเภอเขมราฐ อำเภอเขื่องใน อำเภอเดชอุดม อำเภอเมืองอุบลราชธานี อุบลราชธานี อุโบสถ ฮีตสิบสอง