Warning: mysqli_query() expects parameter 1 to be mysqli, string given in D:\isanlocalwisdom\ubontravel\config.php on line 22

Warning: mysqli_query() expects parameter 1 to be mysqli, string given in D:\isanlocalwisdom\ubontravel\config.php on line 23
:: ฐ า น ข้ อ มู ล แ ห ล่ ง ท่ อ ง เ ที่ ย ว จั ง ห วั ด อุ บ ล ร า ช ธ า นี :: :: ฐ า น ข้ อ มู ล แ ห ล่ ง ท่ อ ง เ ที่ ย ว จั ง ห วั ด อุ บ ล ร า ช ธ า นี ::
:: ฐ า น ข้ อ มู ล แ ห ล่ ง ท่ อ ง เ ที่ ย ว จั ง ห วั ด อุ บ ล ร า ช ธ า นี ::

 วัดศรีอุบลรัตนาราม

 

ที่ตั้ง : ถนนชยางกูร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
ประเภท : วัด
 
        วัดศรีอุบลรัตนาราม หรือวัดศรีทอง จ.อุบลราชธานี เป็นวัดสายธรรมยุต สร้างเมื่อปี พ.ศ.2398 สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงปีนี้ก็มีอายุครบ 150 ปีบริบูรณ์

ที่ตั้งของวัดศรีอุบลรัตนาราม เดิมเป็นสวนของพระอุปฮาชโท ต้นตระกูล ณ อุบล ซึ่งมีความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา จึงยกที่ดินราว 30 ไร่เศษใช้สร้างวัด พร้อมอาราธนาพระเทวธัมมี จากวัดสุปัฏนาราม มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปแรก

ในยุคสมัยการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ วัดศรีอุบลรัตนารามใช้เป็นที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และเป็นที่บรรพชาอุปสมบทพระมหาเถระหลายรูป อาทิ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์, สมเด็จพระมหาวีรวงศ์, พระศาสนาดิลก, พระอาจารย์เสาร์ กนตสีโล, พระอาจารย์มั่น ภูริทตโต

นอกจากนี้ วัดศรีอุบลรัตนารามยังเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วบุษราคัม พระพุทธรูปคู่บ้านเมือง ที่มีมาก่อนตั้งเมืองอุบลราชธานี

สำหรับพระแก้วบุษราคัม เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปกรรมสมัยเชียงแสน แกะสลักจากแก้วบุษราคัม ขนาดหน้าตักกว้าง 3 นิ้ว สูง 5 นิ้ว เป็นสมบัติของเจ้าปางคำ ราชวงศ์จากเมืองเชียงรุ้งแสนหวีฟ้า ที่แตกหนีพวกฮ่อมาจากเมืองเชียงรุ้ง และมาสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน (จ.หนองบัวลำภู)

การมีพระแก้วบุษราคัมมีความเกี่ยวเนื่องกับพระแก้วมรกต เนื่องด้วยสมัยพระเจ้าพรหมมหาราช แห่งโยนกเชียงแสนนครเงินยาง มีพระแก้วมรกตไว้ในพระนคร ทำให้เจ้านายตามเมืองต่างๆ แสวงหาแก้วมณีมีค่ามาสร้างเป็นพระพุทธปฏิมากรไว้ในนคร เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาที่ประกอบด้วยแก้ว 3 ประการ คือ พระพุทธรัตนะ, พระธรรมรัตนะ และพระสังฆรัตนะ

ดังนั้น ในดินแดนสิบสองปันนา ล้านนา ล้านช้าง ซึ่งมีลำธารที่อุดมด้วยรัตนชาติหลากสี จึงมีพระพุทธรูปสร้างด้วยแก้วมณี อาทิ พระเสตังคมณี นครลำปาง, พระแก้วขาว นครเชียงใหม่ และพระแก้วสีเหลืองที่เรียกว่า พระแก้วบุษราคัม

ต่อมาพระแก้วบุษราคัมได้ตกทอดมาถึงพระเจ้าตาผู้เป็นลูกเจ้าปางคำ และปี พ.ศ.2314 นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานถูกเจ้าสิริบุญสารแห่งเวียงจันทน์ยกทัพมาตี พระเจ้าตาถึงอสัญกรรมในสนามรบ

เจ้าพระวอ และท้าวคำผง จึงอพยพหนีศึกมาสร้างบ้านที่บ้านดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี พร้อมอัญเชิญพระแก้วบุษราคัมมาด้วย และขออยู่ในขันธสีมาเจ้ากรุงธนบุรี โดยสร้างวัดหลวงใช้ประดิษฐานพระแก้วบุษราคัม

จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีการปฏิรูปการปกครอง ได้มีการส่งข้าหลวงมากำกับดูแลงานตามหัวเมือง ทำให้เจ้าราชบุตรหนูคำ เจ้าเมืองสมัยนั้น เกรงว่าข้าหลวงจะแสวงหาของสำคัญของบ้านเมืองไปเป็นของตน จึงนำพระแก้วบุษราคัมออกจากวัดหลวงไปซ่อนไว้ที่บ้านวังกางฮุง (ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านอยู่ใน อ.วารินชำราบ)

กระทั่งพระอุปฮาชโทสร้างวัดศรีอุบลรัตนาราม มีญาท่านเทวธัมมี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้ความเคารพนับถือ เป็นเจ้าอาวาส พระอุปฮาชโทจึงไปอัญเชิญพระแก้วบุษราคัมมาถวายเป็นพระพุทธปฏิมาประดิษฐานประจำวัด

พระแก้วบุษราคัมจึงได้ถูกอัญเชิญกลับเข้าเมืองอีกครั้ง และในอดีตจะให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชาเพียงปีละครั้ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อความสะดวกในการดูแลรักษาความปลอดภัยองค์พระแก้วบุษราคัม

แต่นับจากนี้เป็นต้นไป เมื่อมีการจัดระบบรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ จึงได้เปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้าไปกราบนมัสการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.youtube.com/user/localubu#p/f/8/Zpl5-emTQ2w
อ้างอิงจาก : http://www.thai-tour.com

watsriubon.jpgwatsriubon(1).jpgwatsriubon(2).jpgwatsriubon(3).jpg
watsriubon(4).jpg
:: ฐ า น ข้ อ มู ล แ ห ล่ ง ท่ อ ง เ ที่ ย ว จั ง ห วั ด อุ บ ล ร า ช ธ า นี ::