การพัฒนาทักษะวิจัยด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานฐานวิจัยของนักเรียนกิจกรรมชุมนุมวิทยาศาสตร์โรงเรียนน้ำยืนวิทยา

การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานฐานวิจัย (research based learning) เป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิรูปการศึกษา เพราะทั้งครูและนักเรียนได้พัฒนาทักษะกระบวนการวิจัยพร้อมกัน การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานฐานวิจัย 2) ศึกษาระดับความก้าวหน้าของทักษะวิจัย และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคะแนนทักษะวิจัยกับความมั่นใจในการตอบข้อคำถาม ทักษะวิจัย 6 ด้าน ได้แก่ การตั้งคำถาม การกำหนดและควบคุมตัวแปร การตั้งสมมติฐาน การให้นิยามเชิงปฏิบัติการของตัวแปร การออกแบบการทดลอง และการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนกิจกรรมชุมชนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนน้ำยืนวิทยา จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 30 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบประเมินขีดความสามารถด้านทักษะวิจัย (research skill competency test) แบบทดสอบเนื้อหาวิทยาศาสตร์และกิจกรรมพัฒนาทักษะวิจัย 10 กิจกรรม กลุ่มตัวอย่างทำแบบประเมินขีดความสามารถด้านทักษะวิจัยก่อนและหลังการใช้กิจกรรมพัฒนาทักษะวิจัย ผลการวิจัยพบว่า คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนเท่ากับ 4.28 และ 8.75 โดยคะแนนเฉลี่ยของแบบทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ .05 และเมื่อพิจารณาค่า average normalized gain พบว่า นักเรียนมีควาก้าวหน้าทางการเรียนอยู่ในเกณฑ์สูง (high gain) เท่ากับ 0.75 นอกจากนี้ยังพบอีกว่าคะแนนกับระดับความั่นใจในการตอบข้อคำถามมีความสัมพันธ์ไปในทางเดียวกันในระดับมาก มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เท่ากับ 0.86