การศึกษาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีการสอนแบบเอ๊กซ์พลิซิท

Titleการศึกษาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีการสอนแบบเอ๊กซ์พลิซิท
Publication Typeวิทยานิพนธ์/Thesis
Year of Publication2558
Authorsฉันทนา นามวงษา
Degreeวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต -- สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา
Institutionคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
Cityอุบลราชธานี
Call NumberQA ฉ254ก 2558
Keywordsการสอนคณิตศาสตร์, การสอนแบบเอ๊กซ์พลิซิท, การแก้ปัญหา, คณิตศาสตร์--การศึกษาและการสอน, ความสามารถทางคณิตศาสตร์, แบบจำลองทางคณิตศาสตร์
Abstract

การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบเอ๊กซ์พลิซิทกับวิธีการสอนแบบปกติ และเพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจต่อการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบเอ็กซ์พลิซิท การดำเนินการวิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบเชิงทดลอง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 46 คน โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) และได้จับสลากแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ได้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 จำนวน 24 คน เป็นกลุ่มทดลองสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบเอ็กซ์พลิซิท และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 จำนวน 22 คน เป็นกลุ่มควบคุมสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบเอ็กซ์พลิซิทจำนวน 14 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบปกติจำนวน 14 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาพื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบทดสอบแบบอัตนัย จำนวน 5 ข้อ มีค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.35-0.44 มีค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.21-0.38 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.85 4) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจต่อการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบเอ็กซ์พลิซิทจำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก ระหว่าง 0.51-0.87 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.812
ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาพื้นที่ผิวและปริมาตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบเอ็กซ์พลิซิทหลังเรียนสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ความพึงพอใจต่อการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังจากที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบเอ็กซ์พลิซิทโดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.24 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.018)

Title Alternate The study of ability in solving the mathematical problems by using explicit teaching model